สระแก้ว 7 มี.ค. – รพ. ออกหนังสือแสดงความเสียใจ ขออภัยกับครอบครัว กรณีเด็ก 10 ขวบปวดท้องไส้ติ่งแตกเสียชีวิต หลังเกิดเหตุได้พูดคุยชี้แจงข้อเท็จจริงกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตแล้ว พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อแก้ไข ปรับปรุงระบบการทำงาน ป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี “น้องกานต์” อายุ 10 ขวบ มีอาการปวดท้องอย่างหนักญาตินำตัวส่งรักษาที่ รพ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้ว แต่ทาง รพ. ไม่พาเข้าผ่าตัดรักษาทันทีกระทั่งเด็กเสียชีวิตในช่วงบ่ายของอีกวัน จึงร้องเรียนให้ รพ. ออกมารับผิดชอบกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ซึ่งญาติได้นำศพตั้งไว้ที่วัดห้วยกระบอก หรือวัดถ้ำเขามะกา ต.ศาลาลำดวน อ.เมือง จ.สระแก้ว
ด้าน นพ.ประภาส ผูกดวง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า ได้รับรายงานเบื้องต้นจาก นพ.สุรสิทธิ์ จิตรพิทักษ์เลิศ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้วแล้ว ส่วนรายละเอียดอยู่ระหว่างรอรายงานเพิ่มเติม วันนี้ทาง รพ.ได้นัดหมายญาติของเด็กที่เสียชีวิตเข้าพูดคุย ซึ่งเราต้องขอแสดงความเสียใจกับญาติของผู้เสียชีวิตด้วย หลังจากนี้ จะมีคณะกรรมการของ รพ. ที่เรียกว่า ทีมไกล่เกลี่ยความเสี่ยง เข้าไปดูแลพูดคุยกับญาติก่อน เมื่อได้ข้อสรุป จะประชุมกันอีกครั้งโดยคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งโดยปกติกรณีอย่างนี้ ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระแก้วและโรงพยาบาล จะทำเรื่องเยียวยา ตามมาตรา 41 พรบ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ทุกราย
ด้านโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว ได้ออกหนังสือแถลงการณ์ เรื่อง ขอแสดงความเสียใจและขออภัยกับครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยระบุว่า “ตามที่สื่อมวลชน ได้นำเสนอข่าว “สระแก้ว แม่ร้อง เด็ก 10 ขวบ ปวดท้องไส้ติ่งอักเสบจนเพ้อ หมอรีรอจนไส้ติ่งแตกตาย ไม่ถึง 24 ชม.” และ “แม่โวย ลูกชายวัย 10 ขวบ ปวดท้องเข้ารักษาที่ รพ.รัฐ ใน จ.สระแก้ว หมอวินิจฉัยไส้ติ่งอักเสบ แต่รีรอผ่าตัดข้า จนไส้ติ่งแตกตาย” เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2565 รายละเอียดตามข่าวที่เผยแพร่ไปนั้น
“ทางโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่ง และขออภัยต่อสิ่งที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต หลังเกิดเหตุทีมผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องได้พูดคุยชี้แจงข้อเท็จจริงกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต ถึงเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว และได้นัดพูดคุยชี้แจงกับญาติของผู้เสียชีวิตอีกครั้ง ในวันที่ 7 มีนาคม 2565 ทั้งนี้ โรงพยาบาลฯ จะเร่งดำเนินการตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อแก้ไข ปรับปรุงระบบการทำงาน ป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ และป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาลักษณะเดียวกันนี้ขึ้นอีก “
สำหรับไทม์ไลน์ของการเสียชีวิตของน้องวัย 10 ขวบ โดยเมื่อวันที่ 3 มีนาคม ที่ผ่านมา เวลา 22.00 น. น้องมีอาการปวดท้องอย่างหนักต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล เวลา 01.00 น. ของวันที่ 4 มีนาคม เริ่มมีอาการหายใจไม่ออก เวลา 09.33 น. ของเช้าวันที่ 4 มีนาคม ส่งตัวเด็กเข้าห้องผ่าตัด พบว่า ไส้ติ่งแตก อาการหนักต้องปั๊มหัวใจ และเวลา 15.30 น. ของวันที่ 4 มีนาคม น้องเสียชีวิต .-สำนักข่าวไทย