กรุงเทพฯ 2 มี.ค.- ธปท. ฝากการบ้าน บพท. เร่งพัฒนากลุ่มฐานราก ให้มีกำลังซื้อฟื้นตัวจากปัญหาโควิด-19 ขณะที่ บพท. เร่งฟื้นเศรษฐกิจชุมชน ระเบิดจากข้างใน หวังให้เศรษฐกิจทั้งประเทศฟื้น
นายจิตรเกษม พรประพันธ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝายนโยบายโครงสร้างเศรษฐกิจ ธปท. กล่าวว่า เศรษฐกิจไทย เริ่มฟื้นตัวจากปัญหาโควิด-19 แบบ K เชฟ เพราะสายพันธ์โอมิครอน ไม่รุนแรงมากนัก แบ่งเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ กลุ่มส่งออก ภาคการท่องเที่ยว ขณะที่ประชาชน รายย่อย ยังไม่ฟื้นตัว เมื่อไทยมีปัจจัยภายนอกจากสงครามยูเครน การปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 9.5 ของรัสเซีย ส่งผลให้ค่าเงินรูเบิ้ลอ่อนค่าลงอย่างรุนแรง ไทยอาจได้รับผลกระทบจาก ราคาน้ำมันแพง กระทบต่อ สินค้า ค่าครองชีพสูง ตามไปด้วย
ในส่วนของภาคแรงงาน ในภาค STEM ด้านวิทยาศาสตร์ เรียนจบแล้ว 1.3 ล้านคน และเพิ่งเรียนจบอีก 7 แสนคน กลุ่มเหล่านี้ยังต้องหางานทำในขณะนี้ ในภาคเกษตรของไทย สัดส่วนเกินร้อยละ 50 มีอายุเกิน 50 ปี ส่วนที่เหลืออายุใกล้ 50 ปี หากนำเทคโนโลยีมาขับเคลื่อน หรือผลักดันให้เป็นสมาท์ฟาร์เมอร์ คนกลุ่มเหล่านี้จะปรับตัวลำบาก จึงเป็นการบ้านของ บพท.
นายกิตติ สัจจาวัฒนา ผู้อำนวยการ หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) กล่าวว่า เป้าหมายเชิงเศรษฐกิจฐานราก เป็นกลุ่มสำคัญที่ต้องมุ่งแก้ปัญหา ส่วนใหญ่อยู่ในภาคอีสาน จึงต้องการเชื่อมต่อเศรษฐกิจระดับเมืองกับเศรษฐกิจชุมชน จะช่วยให้การแก้ปัญหามีประสิทธิภาพ เพราะเมืองใหญ่จะเป็นตลาดให้กับชุมชน ต้องเพิ่มขีดความสามารถบริหารสภาพคล่องให้กับชุมชน นำฐานทุนวัฒนธรรมท้องถิ่นมีอยู่ นำมายกระดับปรับปรุง เพื่อสร้างจุดขาย ดึงการท่องเที่ยวในท้องถิ่น ทั้งการพัฒนาอาหาร วัฒนธรรม สินค้าชุมชน ชุมชนนวัตกรรม เพื่อฟื้นรากเหง้า จะสามารถมาสร้างมูลค่าเพิ่มในชุมชน โดยให้ชุมชนเป็นผู้บริหารจัดการ เป็นผู้ดูแล วัฒนธรรมเหล่านี้จะเป็นแม่เหล็กสำคัญฟื้นเศรษฐกิจท้องถิ่นหลังโควิด-19 คลี่คลาย.-สำนักข่าวไทย