กรุงเทพฯ 31 ม.ค. – ธปท.เผยเศรษฐกิจไทย เดือน ธ.ค.67 ชะลอลงจากเดือนก่อน ตามการส่งออกสินค้าและการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ลดลง ขณะที่เศรษฐกิจไทยไตรมาส 4/67 ปรับดีขึ้นจากไตรมาสก่อน จับตาความไม่แน่นอนนโยบายประเทศเศรษฐกิจหลัก-มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ
นางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายองค์กรสัมพันธ์ และโฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงภาวะเศรษฐกิจและการเงินเดือนธันวาคม และไตรมาสที่ 4 ปี 2567 โดยเศรษฐกิจไทยในเดือนธันวาคมชะลอลงจากเดือนก่อน ตามการส่งออกสินค้าและการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ลดลง ส่งผลให้กิจกรรมในภาคบริการที่เกี่ยวข้อง อาทิ การขนส่งสินค้าปรับลดลง ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนทรงตัว อย่างไรก็ตาม รายรับภาคการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ตามสัดส่วนนักท่องเที่ยวระยะไกลที่เพิ่มขึ้นด้านการบริโภคภาคเอกชนปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนเล็กน้อยในเกือบทุกหมวดหลัก ยกเว้นหมวดสินค้าไม่คงทนที่ชะลอลง หลังจากที่เร่งไปในช่วงแรกของมาตรการเงินโอนภาครัฐ สำหรับการใช้จ่ายภาครัฐยังขยายตัวต่อเนื่องจากทั้งรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุน
สำหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนตามหมวดพลังงาน จากผลของฐานต่ำในปีก่อนที่มีมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐ ประกอบกับราคาน้ำมันเบนซินปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานทรงตัว สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลเพิ่มขึ้น ตามดุลบริการ รายได้ และเงินโอน ขณะที่ดุลการค้าเกินดุลใกล้เคียงกับเดือนก่อน ด้านตลาดแรงงานโดยรวมทรงตัวจากเดือนก่อนทั้งในภาคการผลิตและภาคบริการ
ขณะที่เศรษฐกิจไทยโดยรวมในไตรมาสที่ 4 ปรับดีขึ้นจากไตรมาสก่อน ตามแรงขับเคลื่อนของกิจกรรมในภาคบริการและรายรับภาคการท่องเที่ยว รวมถึงรายจ่ายลงทุนภาครัฐที่ขยายตัวดีต่อเนื่อง ขณะที่การส่งออกสินค้าไม่รวมทองคำอยู่ในระดับสูง โดยทรงตัวจากไตรมาสก่อน จากการส่งออกสินค้าในกลุ่มเทคโนโลยีขณะที่การบริโภคภาคเอกชนทรงตัว โดยส่วนหนึ่งได้รับผลดีจากมาตรการเงินโอนภาครัฐ แม้ยอดขายยานยนต์จะหดตัว อย่างไรก็ดี การลงทุนภาคเอกชนปรับลดลงจากหมวดยานพาหนะและหมวดก่อสร้าง ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน จากอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่เพิ่มขึ้นตามการส่งผ่านต้นทุน ประกอบกับผลของฐานต่ำในหมวดพลังงานปีก่อนที่มีมาตรการลดราคาพลังงานของภาครัฐ ด้านการจ้างงานทรงตัวจากไตรมาสก่อน โดยการจ้างงานในสาขาโรงแรมและภัตตาคาร ปรับเพิ่มขึ้น ขณะที่สาขาก่อสร้างลดลง สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลเพิ่มขึ้น ตามดุลบริการ รายได้ และเงินโอนที่กลับมาเกินดุลเป็นสำคัญ
ทั้งนี้ กิจกรรมทางเศรษฐกิจยังมีแรงส่งจากภาคท่องเที่ยวและบริการ ขณะที่การส่งออกสินค้าขยายตัวได้ต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม การผลิตภาคอุตสาหกรรมยังคงได้รับแรงกดดันจากปัจจัยเชิงโครงสร้างและการแข่งขันที่สูงขึ้น ส่งผลต่อการฟื้นตัวของรายรับธุรกิจและรายได้ครัวเรือนกลุ่มเปราะบาง ในระยะต่อไป ธปท.ยังต้องติดตาม 1.ผลกระทบจากความไม่แน่นอนของแนวนโยบายของประเทศเศรษฐกิจหลัก และ 2.มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ. -516-สำนักข่าวไทย