แคลิฟอร์เนีย 1 มี.ค. – ค่ายหนังยักษ์ใหญ่ฮอลลีวูด ได้แก่ ดิสนีย์ (Disney) วอร์เนอร์ บราเธอส์ (Warner Bros.) และโซนี พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเมนต์ (Sony Pictures Entertainment) ประกาศว่าจะสั่งระงับฉายภาพยนตร์ใหม่ที่มีกำหนดเข้าโรงหนังในรัสเซีย เพื่อตอบโต้ที่รัสเซียนำกำลังทหารบุกยูเครน และทำให้เกิดวิกฤตการณ์ด้านมนุษยธรรม
ดิสนีย์ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า บริษัทจะสั่งระงับฉายภาพยนตร์เรื่องใหม่ที่มีกำหนดเข้าฉายในรัสเซีย โดยเริ่มจากภาพยนตร์แอนิเมชั่นของพิกซาร์เรื่อง ‘เทิร์นนิง เรด’ (Turning Red) หรือมีชื่อไทยว่า ‘เขินแรงแดงเป็นแพนด้า’ ทั้งยังระบุว่า ดิสนีย์จะตัดสินใจเกี่ยวกับการทำธุรกิจในรัสเซียในอนาคตโดยขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในยูเครน ในขณะเดียวกัน บริษัทก็กำลังประสานงานร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร หรือเอ็นจีโอ เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและด้านอื่น ๆ อย่างเร่งด่วน
หลังจากที่ดิสนีย์เผยแพร่แถลงการณ์ดังกล่าวได้เพียงไม่กี่ชั่วโมง วอร์เนอร์ บราเธอส์ ก็ประกาศว่าจะระงับการฉายภาพยนตร์เรื่อง ‘เดอะ แบตแมน’ (The Batman) ที่มีกำหนดฉายในรัสเซียวันที่ 3 มีนาคม ขณะที่โฆษกของโซนี่ พิคเจอร์ส ระบุในแถลงการณ์ทางอีเมลว่า บริษัทจะระงับแผนการฉายภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์ของรัสเซีย ซึ่งรวมถึงภาพยนตร์เรื่อง ‘มอร์เบียส’ (Morbius) ที่มีกำหนดฉายในเร็ว ๆ นี้ด้วย เพื่อตอบโต้ที่รัสเซียนำกำลังทหารบุกยูเครน
ก่อนหน้านี้ สถาบันภาพยนตร์แห่งยูเครน (Ukrainian Film Academy) ได้เปิดให้ลงชื่อในคำร้องผ่านระบบออนไลน์เพื่อเรียกร้องให้นานาชาติร่วมคว่ำบาตรโรงภาพยนตร์และอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของรัสเซียในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังรัสเซียนำกองทหารบุกยูเครนเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว ทั้งนี้ รัสเซียถือเป็นตลาดที่สำคัญต่ออุตสาหกรรมภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดของสหรัฐ โดยทำรายได้จากการจำหน่ายตั๋วภาพยนตร์ราว 601 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (19,600 ล้านบาท) ในปี 2564 หรือคิดเป็นร้อยละ 2.8 จากรายได้ทั้งหมดทั่วโลก 21,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (700,000 ล้านบาท). -สำนักข่าวไทย