ทำเนียบรัฐบาล 1 มี.ค.- “จุรินทร์” ไม่ตอบปม “ราเมศ” ลดบทบาทในพรรค รับทุกพรรคมีปัญหา แต่แก้ไขได้ ระบุมีคนสนใจลง ส.ส.หลายคน ต้องพิจารณาตามกระบวนการ ยึดประโยชน์พรรคมากกว่าตัวบุคคล เชื่อเลือกตั้งครั้งหน้า ประชาชนตอบรับมากขึ้น
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ประกาศขอลดบทบาทการทำหน้าที่ทีมกฎหมายในพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อลงรับสมัครส.ส.พังงา เขต 2 ว่า ไม่ขอให้ความเห็น เพราะเป็นงานที่จะดำเนินการภายในของพรรค และไม่คิดว่าจะมีผลดีอะไรกับการทำงานภายในพรรค ตนเป็นหัวหน้าพรรคต้องคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของพรรคมากกว่า ผลประโยชน์ส่วนบุคคล ตนะทำหน้าที่นี้ไปให้ดีที่สุด
“ที่ผ่านมาภาพรวมทั้งหมดพรรคประชาธิปัตย์เดินหน้าไปได้ด้วยดี เหมือนกับทุกพรรคที่ไม่มีอะไรราบรื่นไปทั้งหมด ต้องมีปัญหาอุปสรรคบ้าง แต่หลักใหญ่คือทุกพรรคต้องเดินหน้าแก้ไขปัญหาภายในพรรค และนำพรรคเดินไปข้างหน้า ซึ่งประชาธิปัตย์ก็เหมือนกัน ช่วงที่ผ่านมาผมก็ถือว่ามีภาพบวก มีภาพดีออกไปมาก และมีผลสัมฤทธิ์ที่เป็นเรื่องที่ดีออกไปหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของผลงานในการทำงานในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ดังนั้น พิสูจน์ว่าพรรคประชาธิปัตย์ยุคนี้ทำได้ไวทำได้จริง และประชาธิปัตย์ก้าวไปข้างหน้า” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้สนใจสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคมาก ทั้งอดีตส.ส.และคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาแสดงความจำนงต่อพรรค และเชื่อมั่นว่าพรรคประชาธิปัตย์จะได้รับการต้อนรับจากประชาชนมากขึ้นในการเลือกตั้งครั้งหน้า ขณะนี้มีผู้สนใจลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคประชาธิปัตย์ในแต่ละเขตจำนวนมาก เมื่อมีหลายคน พรรคก็มีกระบวนการการพิจารณาคัดเลือกผู้สมัคร ซึ่งการที่หลายคนสนใจถือเป็นภาพบวก ไม่ใช่ภาพลบ หากไม่มีใครสนใจสมัครเลยก็น่าจะเป็นภาพลบ เพราะพรรคหาคนไม่ได้
“โดยเฉพาะในยามพรรคตกต่ำ หาผู้สมัครยาก ต้องไปกราบไหว้วิงวอน หลายยุคหลายสมัยที่ต้องไปขอให้มาช่วยลงสมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์ แต่ยุคนี้หลายเขตหลายพื้นที่รวมทั้งในภาคใต้ มีผู้สนใจลงสมัครหลายคน พรรคก็มีกระบวนการพิจารณาอยู่แล้ว และให้ความเป็นธรรมกับทุกคน ให้ความสำคัญกับทุกคน ไม่ปิดโอกาสใครและไม่ปิดกั้นใคร เมื่อถึงเวลาจะพิจารณาไปตามเนื้อผ้า และคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของพรรคเป็นหลักมากกว่าตัวบุคคล” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย