ยูเครนเสียหายหนัก เสียชีวิตแล้ว 40 คน

คาร์คีฟ 24 ก.พ. – หลายเมืองใหญ่ในยูเครนเสียหายหนักหลังรัสเซียเปิดฉากปฏิบัติการทางทหารในยูเครนเต็มรูปแบบวันนี้ เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 40 คน ผู้คนในยูเครนแห่หนีตาย


ภายหลังกองทัพรัสเซียเปิดฉากใช้ขีปนาวุธยิงโจมตีเมืองใหญ่ ๆ ของยูเครนและส่งทหารเข้ามายังบริเวณชายฝั่งทะเลตั้งแต่ช่วงก่อน 06.00 น. ตามเวลาในกรุงมอสโก หลังจากที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ประกาศผ่านสถานีโทรทัศน์ อนุมัติให้กองทัพปฏิบัติการพิเศษทางทหารในพื้นที่ตะวันออก มีเสียงปืนและเสียงระเบิดดังทั่วกรุงเคียฟ และอีกหลายเมืองใหญ่ของยูเครนตั้งแต่เช้าตรู่ ขณะที่กองกำลัง รถถัง และยานยนต์หุ้มเกราะของกองทัพรัสเซียบุกเข้ายูเครนจากทุกทิศทาง

ปฏิบัติการโจมตีอย่างหนักหน่วงสร้างความเสียหายให้กับสิ่งปลูกสร้างทางทหาร อาคารบ้านเรือนและยวดยานจำนวนมากในเมืองคาร์คีฟ เมืองใหญ่อันดับสองของยูเครน เมืองท่าโอเดสซา และอีกหลายเมือง สื่อยูเครนรายงานว่ามีพลเรือนเสียชีวิตจากการโจมตีของรัสเซียแล้วอย่างน้อย 40 คน สูญหายอีกจำนวนมาก ขณะที่ทั้งเมืองคาร์คิฟเต็มไปด้วยเสียงระเบิดดังสนั่นตลอดทั้งวัน คาดจำนวนผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจะเพิ่มขึ้นอีกมาก


ด้านประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน ประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับรัสเซีย พร้อมขอเรียกร้องให้พลเรือนชาวยูเครนทุกคนจับอาวุธลุกขึ้นสู้กับข้าศึกเพื่อปกป้องประเทศ รัฐบาลพร้อมจัดหาอาวุธปืนให้กับพลเรือนทุกคนที่พร้อมจะต่อสู้ร่วมกับทหาร นอกจากนี้ ผู้นำยูเครนยังขอให้ประชาชนช่วยกันไปบริจาคโลหิตตามโรงพยาบาลต่างๆ เนื่องจากมีทหารยูเครนจำนวนมากบาดเจ็บจากการสู้รบและต้องการเลือดในการผ่าตัด ยืนยันยูเครนจะไม่ยอมแพ้ต่อการรุกรานของรัสเซียในครั้งนี้

ขณะที่ผู้คนจำนวนมากแห่เดินทางออกจากกรุงเคียฟ เพื่อหลบหนีเอาชีวิตรอด เพราะไม่มั่นใจในความปลอดภัยหลังรัสเซียบุกโจมตียูเครน ยวดยานบนถนนหลั่งไหลมุ่งไปทางทิศตะวันตก ส่วนใหญ่หวังไปยังโปแลนด์ที่ใช้เวลาขับรถนาน 3-5 ชั่วโมง ก็จะถึงพรมแดน ส่งผลให้การจราจรติดขัดคับคั่งจนถึงขั้นหยุดนิ่ง ขณะเดียวกัน ชาวยูเครนบางส่วนแห่ไปยังสนามบินกรุงเคียฟ หวังเดินทางออกนอกประเทศ แต่ก็ต้องผิดหวังและติดค้างที่อาคารผู้โดยสาร เพราะเที่ยวบินถูกยกเลิกและมีคำสั่งปิดน่านฟ้าเหนือเมืองหลวง จึงยังไม่แน่ชัดว่าจะสามารถเดินทางออกนอกประเทศได้เมื่อใด

ส่วนประธานาธิบดีอเลกซานเดอร์ ลูเคาเชนโก ผู้นำเบลารุส ระบุในขณะนี้กองทัพเบลารุสยังไม่มีส่วนร่วมในปฏิบัติการโจมตียูเครนของกองทัพรัสเซีย แต่ยอมรับว่ากองทัพเบลารุสอาจส่งกำลังทหารเข้าร่วมในอนาคตหากมีความจำเป็น


ทั้งนี้ รัสเซียส่งกำลังทหารจำนวนมากและยานยนต์หุ้มเกราะเข้าไปยังยูเครนทางภาคเหนือผ่านทางเบลารุส ซึ่งยินยอมให้รัสเซียใช้เส้นทางเคลื่อนทัพ ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่สำคัญมาก เพราะเบลารุสเป็นประเทศเพื่อนบ้านทางเหนือของยูเครน มีพรมแดนห่างจากกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนไม่ถึง 100 กิโลเมตร

ส่วนท่าทีล่าสุดของฝั่งยุโรป นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ผู้นำอังกฤษ แถลงว่าสิ่งที่ประชาคมโลกกังวลที่สุดกลายเป็นจริงหลังรัสเซียบุกโจมตียูเครน พร้อมโจมตีประธานาธิบดีปูตินว่ากำลังทำลายล้างยุโรปด้วยการโจมตีประเทศเพื่อนบ้านแบบปราศจากการยั่วยุใดๆ อังกฤษไม่สามารถอยู่เฉยต่อไปได้ ยืนยันจะดำเนินมาตรการลงโทษรัสเซียหนักหน่วงที่สุด ซึ่งจะกระทบต่อระบบเศรษฐกิจรัสเซียอย่างรุนแรง อีกทั้งอังกฤษและประชาคมโลกจะดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อให้ยูเครนปลอดภัย

ด้าน เออร์ซูลา แวน เดอเลเยิน ประธานคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป แถลงที่กรุงบรัสเซลส์ พร้อมบรรดาผู้นำสหภาพยุโรป หรืออียู ระบุการที่รัสเซียส่งกำลังทหารโจมตียูเครนในวันนี้ ถือเป็นหนึ่งในช่วงเวลาเลวร้ายและดำมืดที่สุดในยุโรปนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 และเตือนรัสเซียว่าจะต้องเผชิญกับมาตรการลงโทษและคว่ำบาตรอย่างรุนแรงที่สุดอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ด้านเลขาธิการองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต้ ชี้รัสเซียโจมตียูเครนเป็นการกระทำที่ป่าเถื่อน หวังผลให้เกิดความเสียหายรุนแรง และทำให้ชีวิตพลเรือนผู้บริสุทธิ์ในยูเครนต้องตกอยู่ในอันตราย

ในส่วนของโฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน แถลงที่กรุงปักกิ่ง สงวนท่าทีโดยไม่ระบุชัดเจนว่ารัสเซียใช้กำลังทหารบุกโจมตียูเครน บอกเพียงว่าจีนกำลังจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอให้ทุกฝ่ายใช้ความอดทนอดกลั้นเพื่อไม่ให้เหตุการณ์เลวร้ายลง อย่างไรก็ดี จีนยอมรับว่าสถานการณ์ในยูเครนขณะนี้เลวร้ายลงอย่างมาก และมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น จนมีโอกาสพัฒนาเป็นเหตุจลาจลวุ่นวาย จึงขอเตือนพลเรือนชาวจีนในยูเครนให้อยู่แต่ในบ้าน หากจำเป็นต้องขับรถออกนอกบ้าน ขอให้ติดธงชาติจีนไว้ในส่วนที่สังเกตเห็นได้ชัดเจนของรถเพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

ผู้เสียหาย 70 ราย ร้องสภาทนายฯ ถูกหอพักโหดเอาเปรียบ

ผู้เสียหาย 70 คน เข้าร้องสภาทนายความช่วยเหลือ หลังถูกเจ้าของหอพัก ย่านรังสิต เอาเปรียบ ข่มขู่กักขัง-ยึดทรัพย์ ด้านนายกสภาทนายความ ตั้งคณะทำงานช่วยเหลือทางคดี ทั้งแพ่ง-อาญา เชื่อมีผู้เสียหายเพิ่มอีก

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษ 3 แพทย์ เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 ท่าน เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยว่ากล่าวตักเตือน 1 ท่าน พักใช้ใบประกอบวิชาชีพ 2 ท่าน เผยมติที่ประชุมมีความเห็น “เป็นเสียงส่วนใหญ่มาก มาก มาก”

นายกฯ มาเลเซีย ต่อสายคุย “แพทองธาร” ติดตามสถานการณ์ใต้

นายกฯ มาเลเซีย ต่อสายคุย “แพทองธาร” ติดตามสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนใต้ แสดงความพร้อมร่วมมือกับไทยเพื่อยุติความรุนแรง พร้อมใช้เวทีอาเซียนสนับสนุนความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างสมาชิกมากขึ้น