ตรัง 23 ก.พ. – ครอบครัวร้องสื่อฯ แม่ป่วยโควิด-19 เข้ารักษาที่ รพ. กลับบ้านมาพร้อมรอยช้ำทั้งตัว และมีอาการหวาดผวา ด้าน รพ.แจงรอยฟกช้ำเกิดจากการเจาะเลือด ยืนยันพยาบาลไม่ทำร้ายผู้ป่วย
นางนฤทัย อายุ 50 ปี และนายอนันต์วิทย์ อายุ 47 ปี สองพี่น้อง ออกมาร้องสื่อฯ หลังทั้งบ้านติดเชื้อโควิด-19 และต้องเข้ารับการรักษาทุกคน รวมถึงแม่ อายุ 73 ปี แต่หลังจากครอบครัวไปรับแม่กลับมาจากโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.ตรัง พบตามเนื้อตัวมีรอยฟกช้ำดำเขียว บริเวณแขน ข้อมือทั้ง 2 ข้าง หลังมือ มีรอยเขียวช้ำ และรอยเล็บจิก บริเวณใต้รักแร้ รอยจ้ำเลือดที่ปลายนิ้วมือ รวมทั้งมีอาการหวาดผวา และมีอาการเพ้อ พูดว่าถูกพยาบาลร่างอ้วนกระทำรุนแรง สอดท่อเข้าในช่องปาก และใช้ท่อแหย่จมูกจนเลือดออก
นางนฤทัย ลูกสาว เล่าว่า แม่เข้ารักษาตัว เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตอนไปโรงพยาบาล แม่ยังสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และรับประทานอาหารได้เอง แม้ว่าจะมีอาการหลงๆ ลืมๆ ไปบ้าง ก่อนหน้าที่จะไปรับตัวกลับมา มีเพื่อนบ้านมาบอกว่า แม่อาการไม่ดี จึงโทรศัพท์ไปถามโรงพยาบาล แต่เจ้าหน้าที่ตอบกลับมาด้วยลักษณะไม่พอใจที่ตนโทรไปถาม จึงตัดสินใจไปโรงพยาบาล และได้คุยกับหมอ ทราบว่า แม่โดนมัดมือมัดเท้า ให้ยานอนหลับ ซึ่งการกระทำดังกล่าวทางโรงพยาบาลไม่ได้แจ้งญาติก่อน ทั้งหมดนี้ทำให้ครอบครัวติดใจ เพราะครอบครัวไม่รู้ว่า เขาทำอะไรกับแม่บ้าง สอดสายอะไรบ้าง ที่คุณหมอบอกมีแค่ให้ออกซิเจน น้ำเกลือ อาหารทางสายยาง ขณะรับตัวแม่ที่โรงพยาบาล พบแม่มีอาการทุรนทุราย แต่พอกลับมาอยู่บ้านได้ 2 วัน แม่ก็มีอาการดีขึ้นมาก เริ่มจำได้ นั่งทรงตัวได้ สดชื่นขึ้นมาก
ด้านลูกชาย บอกกับทีมข่าวว่า นอกจากร่องรอยฟกช้ำแล้ว ยังติดใจเรื่องการรักษา แม่ของตนรักษาตัวครบ 10 วันแล้ว และไม่พบเชื้อ แต่แทนที่จะแยกห้อง หรือแยกตึกไปเฝ้าดูอาการต่อ กลับให้อยู่รวมกับผู้ป่วยที่ยังติดเชื้อ โดยเจ้าหน้าที่ให้เหตุผลว่า พยาบาลน้อย ดูแลไม่ทั่วถึง และวันแรกที่รับแม่กลับมาบ้าน จะป้อนข้าวให้ แต่แม่ไม่กล้าอ้าปาก เหมือนผวาที่ถูกใส่ท่อในคอ นอกจากนี้ ยังมีญาติผู้ป่วยโควิดที่เสียชีวิต บอกว่า ตามเนื้อตัวญาติก็มีร่องรอยฟกช้ำเหมือนกัน
เมื่อวานนี้ (22 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อผู้อำนวยการโรงพยาบาลดังกล่าว แต่ไม่ขอให้สัมภาษณ์ใดๆ แจ้งเพียงว่าจะทำหนังสือชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตรัง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาก่อน
ขณะเดียวกัน นพ.ตุลกานต์ มักคุ้น โฆษก ศบค.ตรัง เปิดเผยว่า ผู้อำนวยการโรงพยาบาลฯ ไปทำความเข้าใจกับครอบครัวดังกล่าวถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นแล้ว โดยรอยฟกช้ำดำเขียวตามร่างกายนั้น ส่วนหนึ่งเกิดจากการเจาะเลือด และส่วนหนึ่งเกิดจากการยึดโยงของพยาบาล เนื่องจากผู้ป่วยมีอาการเพ้อจากโรคโควิด-19 และไปรบกวนผู้ป่วยเตียงข้างๆ รวมทั้งมีอาการน้ำตาลในเลือดขึ้นสูง จากโรคเบาหวาน จึงจำเป็นต้องยึดโยงไว้ ซึ่งได้ขออนุญาตทางครอบครัวแล้ว แต่เพราะผู้ป่วยมีลูกหลายคน จึงอาจไม่ได้รับข้อมูลทุกคน พร้อมยืนยันว่าไม่มีพยาบาลทำร้ายผู้ป่วยอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ทางครอบครัวยืนยันว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อหรือพูดคุยกับผู้บริหารของโรงพยาบาลดังกล่าว แต่ได้เข้าไปติดต่อขอประวัติการรักษาแม่ เพื่อจะนำไปเป็นหลักฐานในการร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ขอความเป็นธรรมให้กับแม่ หากไม่ได้รับความเป็นธรรมอีกก็จะร้องต่อสำนักงานสาธารณสุขต่อไป ซึ่งครอบครัวต้องการภาพวงจรปิด เพื่อดูว่าขณะที่แม่เข้ารับการรักษาเป็นอย่างไร. – สำนักข่าวไทย