ทำเนียบรัฐบาล 22 ก.พ.- ครม. ยกเว้นภาษีเงินได้ผู้ถือวีซ่าพำนักระยะยาว 4 กลุ่ม ดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงเข้าประเทศ หนุนขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร(ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ซึ่งเป็นมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย โดยมีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับชาวต่างชาติผู้ถือวีซ่าประเภทผู้พำนักระยะยาว(Long-term resident Visa : LTR Visa)
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำหรับชาวต่างชาติกลุ่มซึ่งเป็นเป้าหมายตามมาตรการ แบ่งเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้ 1. ประชากรโลกที่มีความมั่นคั่งสูง ได้แก่ ผู้ที่มีการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทย ลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) หรือในอสังหาริมทรัพย์ไม่ต่ำกว่า 500,000.02 ดอลลาร์สหรัฐ มีรายได้ส่วนบุคคลไม่ต่ำกว่าปีละ 80,000 ดอลลาร์สหรัฐในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และมีทรัพย์สินไม่ต่ำกว่า 1,000,000. ดอลลาร์สหรัฐ 2. กลุ่มผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ ได้แก่ ผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป มีการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทย ลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ หรือในอสังหาริมทรัพย์ ไม่ต่ำกว่า 250,000 ดอลลาร์สหรัฐ มีรายได้ปีละ 40,000 ดอลลาร์สหรัฐหรือมีรายได้ (เงินบำนาญ) ไม่ต่ำกว่าปีละ 80,000. ดอลลาร์สหรัฐ
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า 3. กลุ่มที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย : มีรายได้ปีละไม่ต่ำกว่า 80,000 ดอลลาร์สหรัฐในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาหรือมีรายได้ไม่ต่ำกว่าปีละ 40,000 ดอลลาร์สหรัฐ ฯ หากจบการศึกษาระดับปริญญาโทขึ้นไปหรือครอบครองทรัพย์สินทางปัญญาหรือได้รับเงินทุน Series A มีประสบการณ์การทำงาน 5 ปี 4. กลุ่มผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ ทำงานในบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ประกอบกิจการอุตสาหกรรมเป้าหมาย ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน กฎหมายว่าด้วยการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย หรือกฎหมายว่าด้วยเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก มีรายได้ปีละไม่ต่ำกว่า 80,000 ดอลลาร์สหรัฐในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาหรือมีรายได้ไม่ต่ำกว่าปีละ 40,000 ดอลลาร์สหรัฐ หากจบการศึกษาระดับปริญญาโทขึ้นไป และมีประสบการณ์การทำงานห้าปีในอุตสาหกรรมเป้าหมาย
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) ได้คาดการณ์ว่าจะมีชาวต่างชาติ เข้ามาในประเทศไทยจำนวน 1 ล้านคน และกระทรวงการคลังได้ประมาณการว่าจะไม่มีการสูญเสียรายได้จากมาตรการภาษีครั้งนี้ เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายเป็นชาวต่างประเทศซึ่งไม่อยู่ในฐานภาษีของประเทศไทย แต่อาจเพิ่มรายได้ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากกลุ่มผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษที่จะเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในอัตราร้อยละ 17 ของเงินได้พึงประเมิน นอกจากนี้ ยังมีประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับดังนี้คือ ชาวต่างชาติผู้มีฐานะทางเศรษฐกิจหรือมีความรู้ความเชี่ยวชาญเข้ามาพักอาศัยหรือทำงานในประเทศไทยเพิ่มขึ้น การบริโภคและการลงทุนในประเทศเพิ่มขึ้น และขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศเพิ่มขึ้น.-สำนักข่าวไทย