รัฐสภา 22 ก.พ.-“รังสิมันต์” เตรียมนำเรื่องคดีค้ามนุษย์เข้า กมธ.กฎหมายสอบ ชี้ “พล.ต.ต.ปวีณ” จะกลับไทยได้คงต้องเปลี่ยนรัฐบาลที่มีความเป็นธรรม
นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ประเด็นปัญหาการค้ามนุษย์ ที่ส่งผลให้พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ซึ่งเป็นหัวหน้าชุดคดีค้ามนุษย์โรฮิงญา ต้อง ขอลี้ภัยไปอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย ว่า ผ่านมาแล้ว 3 วัน หลังการอภิปรายเมื่อวันศุกร์ที่ 18 ก.พ.65 ยังไม่ได้รับคำ อธิบายที่น่าสนใจจากรัฐบาล และไม่ได้ต่อยอดขยายผลในเรื่องนี้ ซึ่งตนยังคงมีคำถามว่าเรื่องนี้กองทัพเรือต้องร่วมรับผิดชอบหรือไม่ ฝ่ายปกครองที่อยู่ในกำกับดูแลของกระทรวงมหาดไทย จุดใดที่ไร้ประสิทธิภาพจนทำให้เกิดการขนคน ในกระบวนการค้ามนุษย์เช่นนี้ ดังนั้นรัฐบาลควรตั้งคณะกรรมการกลาง เพื่อมาตรวจสอบเรื่องนี้
ส่วนการที่นายกรัฐมนตรี ระบุว่าให้ พล.ต.ต.ปวีณ กลับมาประเทศไทยเพื่อสู้คดี นั้น นายโรม กล่าวว่า หากยังไม่มีกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริง คำถามคือใครจะเดินทางกลับมา เพราะที่ผ่านมาจะเห็นว่ามีกรณีการอุ้มหายเกิดขึ้น ตนไม่คิดว่ารัฐบาลให้ความมั่นใจได้ ทั้งนี้ ตนจะใช้ช่องทางกรรมาธิการการยุติธรรมกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาฯ จะใช้ช่องทางของกรรมาธิการในการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงต่อไป แต่ยอมรับว่า การใช้ช่องทางกรรมาธิการฯ คงไม่เพียงพอที่จะทำให้พล.ต.ต.ปวีณ สามารถเดินทางกลับไทยจากการลี้ภัยในออสเตรเลียได้ เพราะหนทางที่เป็นธรรม คงต้องรอให้มีรัฐบาลใหม่ คงไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในรัฐบาลนี้
สำหรับกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณรองนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า รัฐบาลจะเดินหน้าปราบปรามการค้ามนุษย์อย่างจริงจังนั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ถ้ามีการดำเนินการจริง ประเทศไทยคงไม่ถูกลดอันดับความเชื่อมั่นการป้องกันด้านการค้ามนุษย์ หรือ Tip Report เมื่อปีที่ผ่านมาให้อยู่ในระดับเทียร์2 เฝ้าระวัง จากระดับเทียร์2 ปกติ จึงเห็นว่ากระบวนการแก้ปัญหาที่มีอยู่เดิมมีปัญหาอย่างแน่นอน ส่วนตัวเชื่อว่าการแก้ปัญหาเรื่องนี้ไม่ได้อยู่แค่การแก้ปัญหาค้ามนุษย์ แต่ต้องปราบปรามเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามการค้ามนุษย์ด้วย
นายรังสิมันต์ ยังเชื่อว่าปัญหาที่เกิดขึ้น 3 ป. น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องไม่ทางใดก็ทางหนึ่งกับการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะพล.อ.ประวิตร ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการย้าย พล.ต.ต. ปวีณ ไป3จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งไม่มีเหตุมีผลอื่น นอกจากทำให้พล.ต.ต.ปวีณ ได้รับอันตราย จากสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ภาคใต้ อีกทั้งส่วนตัวยังมีแหล่งข่าวยืนยันว่า พล.อ.อนุพงษ์ มีความรู้เรื่องค้ามนุษย์ที่จังหวัดระนอง และเป็นรัฐมนตรีมหาดไทยมานาน การย้ายชาวโรฮิงญาจากระนองไปจังหวัดสงขลา คงต้องมีความร่วมมือจากฝ่ายต่างๆ นอกจากตำรวจ ซึ่งคนที่จะเปิดทางให้เกิดกระบวนการนี้ได้ คนๆนั้นต้องใหญ่จริงๆ และเชื่อว่าพล.อ.อนุพงษ์ รู้คำตอบเรื่องนี้ดี ส่วนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อยู่ในฐานะนายกรัฐมนตรี ย่อมต้องรู้ทุกเรื่อง และเป็นผู้ที่ได้รับคำขอจากพลตำรวจตรีปวีณ ให้ระงับเรื่องโยกย้าย แต่ไม่ทบทวน คำสั่ง. สำนักข่าวไทย