กรุงเทพฯ 6 ม.ค.- ผบช.น.คุมตัวคนร้ายฆ่าชิงทรัพย์อดีตพนักงานภาคพื้นสนามบิน ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หวิดโดนรุมประชาทัณฑ์ ขณะที่ล่าสุดมีรายงานว่า สามารถจับคนขับขี่ จยย.พาไปก่อเหตุได้แล้ว
พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล นำตัวนายกิตติกร วิกาหะ ผู้ต้องหาฆ่าปาดคอชิงทรัพย์นายวศิน เหลืองแจ่ม อดีตพนักงานภาคพื้นสนามบิน เสียชีวิต และยังก่อเหตุชิงทรัพย์ต่อเนื่องรวม 4 ครั้ง ในคืนเดียวกัน (4 ม.ค.) มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ปากซอยสุคนธสวัสดิ์ 27 เขตลาดพร้าว หลังจับกุมได้ที่บ้านพักย่านปากเกร็ด เมื่อวานนี้ (6 ม.ค.)
เริ่มจากจุดที่นายกิตติกร ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์คนร้ายอีกคน ซึ่งอยู่ระหว่างหลบหนี ก่อนลงจากรถและใช้มีดจี้ชิงโทรศัพท์มือถือไอโฟนของนายวศิน แล้วใช้มีดจ้วงแทงที่ลำตัวและปาดคอนายวศินจนเสียชีวิต ก่อนหลบหนีไปทาง ถ.ประดิษฐ์มนูธรรม โดยใช้กำลังตำรวจและทหารกว่า 100 นาย คอยดูแลความเรียบร้อย เนื่องจากมีประชาชนมารออยู่จำนวนมาก พร้อมตะโกนด่าทอผู้ต้องหา ชูป้ายข้อความ “ฆ่าคนตายต้องประหารชีวิต” และพยายามเข้ามารุมประชาทัณฑ์ ทำให้ตำรวจต้องคุมตัวผู้ต้องหาออกจากพื้นที่ทันที
จุดต่อไปคือ ในซอยสุคนธสวัสดิ์ 9 และหน้าโรงพยาบาลสินแพทย์ จุดนี้มีชายฉกรรจ์แหวกวงล้อมตำรวจเข้ามาใช้ฝ่ามือตบเข้าที่หมวกนิรภัยที่คนร้ายสวมใส่เสียงดังสนั่น พล.ต.ท.ศานิตย์ สั่งให้นำตัวชายฉกรรจ์ออกไปสงบสติอารมณ์ และเปรียบเทียบปรับที่สถานีตำรวจ
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า ตำรวจมีพยานหลักฐานชัดเจนที่จะเอาผิดข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะและมีอาวุธติดตัวไป เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งมีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต เชื่อว่ามีหลายคนเคยตกเป็นเหยื่อผู้ต้องหารายนี้ จึงขอให้มาแจ้งความกับตำรวจเพิ่มเติม ส่วนคนขับขี่รถจักรยานยนต์ ขอให้เข้ามอบตัว ไม่เช่นนั้นตำรวจจะดำเนินมาตรการขั้นเด็ดขาด พร้อมแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิต และฝากเตือนประชาชนให้ระมัดระวัง หากเกิดเหตุร้ายอย่าต่อสู้ ยื้อยุดทรัพย์สิน ตำรวจจะทำหน้าที่ในการติดตามทรัพย์คืนให้ และดำเนินคดีกับคนร้ายอย่างถึงที่สุด ทั้งนี้ ได้สั่งการให้ตำรวจนครบาลร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจจุดเสี่ยงและติดตั้งไฟส่องสว่างในทุกพื้นที่ จากนั้นตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปสอบสวนต่อที่ สน.โคกคราม ก่อนส่งตัวฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ ในวันพรุ่งนี้ (7 ม.ค.)
นางกรรณิกา หลีสุข อาชีพพยาบาล ซึ่งถูกก่อเหตุในคืนเดียวกัน เล่าว่า ขณะยืนรอรถประจำทางที่ป้ายหน้าโรงพยาบาลสินแพทย์ เห็นผู้ต้องหาเดินเข้ามาหา เข้าใจว่าจะสอบถามทาง ก่อนถูกกระชากกระเป๋า ตนพยายามกระชากคืน แต่สู้แรงไม่ได้ ในกระเป๋ามีทรัพย์สิน เงินสด 5,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และเอกสารสำคัญ อยากให้เหตุการณ์นี้เป็นอุทาหรณ์ให้ระมัดระวังตัว หากอยู่ในที่เปลี่ยวหรือเวลากลางคืน ล่าสุดมีรายงานว่า ตำรวจสามารถจับกุมคนขับขี่รถจักรยานยนต์พานายกิตติกรไปก่อเหตุได้แล้ว.-สำนักข่าวไทย