กรุงเทพฯ 9 ก.พ. – อธิบดีกรมป่าไม้รับหนังสือร้องเรียนของ “ศรีสุวรรณ” ที่ร้องเรียนให้ตรวจสอบที่ดินของ “ทิดสมปอง” ในอำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิว่า บุกรุกที่ป่าสงวนแห่งชาติหรือไม่ ซึ่งยืนยันจะตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา หากพบผู้กระทำผิดจะแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายทุกฉบับที่เกี่ยวข้อง
นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้รับหนังสือร้องเรียนจากนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยเพื่อให้ตรวจสอบครอบครองที่ดินหลายร้อยไร่ของนายสมปอง นครไธสง หรือ “ทิดสมปอง” เพื่อทำสวนยางพาราในอำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ
อธิบดีกรมป่าไม้กล่าวว่า เจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 (นครราชสีมา) และศูนย์ประสานงานป่าไม้ชัยภูมิเข้าตรวจสอบแล้วพบว่า ที่ดินตามที่เป็นข่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติภูซำผักหนาม โดยก่อนหน้านี้ เป็นพื้นที่ประกาศเขต ของสปก ต่อมาพบว่า พื้นที่บางส่วนไม่เหมาะต่อการทำเกษตรกรรมเช่น ยังคงมีสภาพเป็นป่า ทางส.ป.ก. จึงกันคืนให้กรมป่าไม้เมื่อปี 2539
สำหรับผลการตรวจสอบพื้นที่เมื่อวานนี้ (8 ก.พ.) เจ้าหน้าที่ป่าไม้สำรวจแล้ว 6 แปลงจาก 11 แปลง เนื้อที่กว่า 200 ไร่ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ แต่ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่า ใครเป็นผู้ครอบครองเนื่องจากขณะเข้าตรวจสอบไม่มีผู้ใดอยู่ในพื้นที่หรือแสดงตัวยืนยันการครอบครอง เมื่อสอบถามผู้นำชุมชนก็ไม่ทราบว่า เป็นที่ดินของใคร จึงยังพิสูจน์สิทธิในที่ดินไม่ได้ ขั้นตอนต่อไปคือ ร่วมกับผู้ใหญ่บ้านตรวจสอบหาผู้ครอบครองและเข้าทำกินตั้งแต่เมื่อไร หากครอบครองก่อนมติครม. 30 มิ.ย. 2541 ได้รับยกเว้นให้อยู่อาศัยและทำกินได้ แต่ไม่สามารถจะบุกรุกแผ้วถางป่าเพิ่มเติมและซื้อขายเปลี่ยนมือซึ่งผิดเงื่อนไขและมีโทษทางกฎหมาย ขณะนี้ยังไม่เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนกล่าวหาผู้ใด แต่หากตรวจสอบได้ข้อมูลครบถ้วนและพบผู้กระทำผิดจะแจ้งความดำเนินคดีตามพ.ร.บ.ป่าไม้และพ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ
สำหรับที่ดินบางส่วนของแปลงที่ตรวจสอบอยู่ในเป้าหมายการจัดที่ดินให้ชุมชน ตามนโยบายคณะกรรมการที่ดินแห่งชาติ (คทช) ก็ต้องตรวจสอบคุณสมบัติว่ามีสิทธิ์เข้าน่วมโครงการหรือไม่
อย่างไรก็ตามวันนี้เจ้าหน้าที่ป่าไม้จะลงตรวจซ้ำให้ครบทั้ง 11 แปลง และพิสูจน์ผู้ถือครองว่าได้มาตั้งแต่เมื่อไหร่ ครอบครองมาก่อนมติ ครม. 30 มิ.ย.2541 หรือไม่ ตามข้อยกเว้นของผู้ทำกินมาก่อน แต่ถ้าตรวจสอบพบการทำผิดกฎหมายป่าสงวนแห่งชาติ มาตรา 14 ยึดถือครอบครองทำประโยชน์และอยู่อาศัยในที่ดิน จะมีโทษจำคุกถึง 10 ปี หรือปรับถึงสองแสนบาท อีกทั้งถ้าบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติเกิน 25 ไร่ขึ้นไป โทษจะสูงขึ้นไปอีกขั้นจำคุก 20 ปี หรือปรับ สองล้านบาท
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยซึ่งเดินทางยื่นคำร้องต่ออธิบดีกรมป่าไม้ให้ตรวจสอบที่ดินและการครอบครองหลายร้อยไร่ใน อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ตามที่มีข่าวว่า เป็นของ “ทิดสมปอง” ซึ่งซื้อมากว่า 300 ไร่เพื่อปลูกยางพารา โดยให้ญาติถือครองที่ดินแทน ซึ่งตั้งข้อสังเกตว่า อำเภอคอนสารเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติเกือบทั้งอำเภอ จึงน่าจะผิดกฎหมาย
นายศรีสุวรรณตั้งข้อสังเกตว่า ที่ดินซึ่งครอบครัวของ “ทิดสมปอง” ถือครองมีมากกว่า 5 แปลง บางส่วนอยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.) แต่บางแปลงอาจอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าภูซำผักหนาม ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 538 ซึ่งส.ป.ก.ได้กันคืนพื้นที่บางส่วนออกมาจากเขตปฏิรูปที่ดินเพราะยังมีสภาพเป็นป่าไม้อยู่ แต่กลับปรากฏการบุกรุกแผ้วถางยึดถือครอบครองไปเป็นจำนวนมาก จึงขอให้อธิบดีกรมป่าไม้ตรวจสอบว่า ผิดกฎหมายหรือไม่.-สำนักข่าวไทย