รัฐสภา 7 ก.พ.-“หมอชลน่าน” แจงดราม่าเพื่อไทย-ก้าวไกล ยันเป็นวิธีการกดดันรัฐบาล ชี้ใช้เฉพาะสถานการณ์ที่รัฐบาลวิกฤติ พร้อมคุย ‘ก้าวไกล’ ปรับวิธีการทำงานในลงตัว
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวก่อนการประชุม คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงกรณีเกิดความขัดแย้งระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล จากปัญหาองค์ประชุมไม่ครบเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เรื่องนี้ไม่ได้มีประเด็นอะไรมาก แต่เป็นวิธีการทำงาน มีการพูดคุยถึงหลักการทั่วไปเห็นพ้องตรงกันว่าจะทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลอย่างเข้มข้นโดยการนับองค์ประชุม เพราะเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามีการแตกแยกในรัฐบาลซึ่งเป็นเสียงข้างมากในรัฐสภา แต่ขณะนี้กลายเป็นเสียงข้างน้อย เพราะฝ่ายรัฐบาลไม่เคยเข้าร่วมประชุมเกินกึ่งหนึ่งขององค์ประชุม ยืนยันว่า การไม่แสดงตนของฝ่ายค้าน เป็นวิธีการที่ใช้ในสถานการณ์วิกฤติเท่านั้น พรรคร่วมฝ่ายค้านจึงเห็นพ้องกันว่าจะไม่ปล่อยให้เสียงข้างน้อยปกครองประเทศ และไม่ยอมไปเป็นเสียงข้างมากให้รัฐบาล พรรคเพื่อไทยพรรคจึงยืนยันปฏิบัติตามมติวิปฝ่ายค้านไม่แสดงตน แต่พรรคก้าวไกลต้องการให้สภาเดินหน้า เพื่อให้มีการพิจารณารายงานบำนาญพื้นฐานแห่งชาติ หรือ บำนาญ 3,000 บาท ที่มีนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส. พรรคก้าวไกลเป็นประธานกรรมาธิการ
นพ.ชลน่าน ยอมรับผิดว่า อาจเกิดจากความสับสนว่าเรื่องใดสำคัญหรือไม่สำคัญ เพราะเน้นแค่หลักการใหญ่ที่ต้องเห็นพ้องต้องกัน แต่ในส่วนกฎหมายอื่นๆนั้น ฝ่ายค้านเคารพสิทธิ์ของแต่ละพรรคการเมือง และไม่มีอะไรที่เป็นปัญหาขัดแย้ง พร้อมยืนยันว่าเป็นการทำงาน เพื่อบอกว่ารัฐบาลไม่มีความชอบธรรมที่จะอยู่ต่อ
ส่วนกรณีที่พรรคก้าวไกล มองว่า วิธีการไม่แสดงตัว ไม่สามารถกดดันให้รัฐบาลยุบสภาได้นั้น นพ.ชลน่าน ระบุว่า ไม่ใช่วิธีการ แต่เป็นกระบวนการที่จะส่งต่อไปให้ผู้นำประเทศ เพราะขณะนี้ไม่ว่าจะทำอะไรรัฐบาลก็ไม่ยุบสภาจนกว่าจะไม่มีความชอบธรรมและวิธีการแบบนี้ทำให้รัฐบาลไม่กล้านำกฎหมายสำคัญเข้าสภา โดยเฉพาะกฎหมายการเงิน ซึ่งจะทำให้รัฐบาลไม่สามารถบริหารประเทศต่อได้
ส่วนที่สภาล่ม 2 ครั้ง ล่าสุดเป็นการล่มก่อนที่กฎหมายของพรรคก้าวไกลจะเข้าสู่การพิจารณา จึงทำให้พรรคก้าวไกลไม่พอใจนั้น นพ.ชลน่าน ชี้แจงว่า กฎหมายไม่ได้ถูกตีตก และยังคงอยู่ในสภา
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า นอกจากการหาหรือพูดคุยและปรับวิธีการทำงานในที่ประชุมวิปฝ่ายค้านแล้ววันนี้ (7 ก.พ.) ก็จะมีการประชุมหัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วย จะมีการพูดคุยเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการสับสนขึ้น พร้อม ย้ำว่า ไม่มีดราม่าอะไรที่มากกว่าประโยชน์ประชาชน และการแสดงความเห็นต่างถกเถียงกัน เป็นวิถีประชาธิปไตย พร้อมฝากไปยังประชาชนต้องรับฟังและเคารพความเห็นกันและกัน.-สำนักข่าวไทย