เพื่อไทยย้ำไม่นิ่งนอนใจปมดิไอคอน บอก พปชร. อย่าโยน

รัฐสภา 30 ต.ค.- โฆษกเพื่อไทยย้ำรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจ เรื่อง ดิไอคอนกรุ๊ป ชี้โฆษก พปชร. อย่าโยนเรื่องปัดความรับผิดชอบ


นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการแถลงข่าวของพรรคพลังประชารัฐ พาดพิงถึงบริษัทดิไอคอน กรุ๊ป และเปิดเผยอักษรย่อนักการเมืองที่อาจเกี่ยวข้อง ว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มีการไปหาข้อมูล รวมถึงทำการบ้านว่าเกิดอะไรขึ้น ย้ำว่า ทั้งพรรคเพื่อไทย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และผู้ที่เกี่ยวข้อง ในฐานะที่เราเป็นรัฐบาล เราไม่ได้นิ่งนอนใจ และนายกรัฐมนตรี ก็ได้สั่งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้ลงไปดูแลพี่น้องประชาชนที่เสียหาย

ส่วนเรื่องอักษรย่อต่างๆ นั้น เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อสภาชุดที่ผ่านมา ซึ่งในขณะนั้น ยอมรับว่า มี สส.ของพรรคเพื่อไทย นายมานะ โลหะวณิชย์ อดีต สส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย เป็นประธานคณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร และนางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งเป็นประธานคณะอนุฯ ในขณะนั้น ได้แถลงข่าวไปแล้ว


สำหรับตัวย่อ ซ. ซึ่งเชื่อมโยงถึงนายยุรนันท์ ภมรมนตรี หรือบอสแซม เคยเป็นผู้สมัคร สส.พรรคเพื่อไทย ที่เป็นผู้ที่ถูกกล่าวหา และถูกดำเนินคดีนั้น นายยุรนันท์ได้สิ้นสภาพการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค. 65 เป็นเวลาประมาณ 3 ปีแล้ว

ขณะที่ อักษรย่อ ก. ซึ่งถูกเชื่อมโยงว่าเป็นนายอรรฆรัตน์ นิติพน พิธีกรรายการอายุน้อยร้อยล้าน ซึ่งเป็นผู้สมัคร สส.กทม.ของพรรคเพื่อไทยนั้น ตนได้สอบถามไปแล้ว และได้รับทราบว่า นายก้องทำรายการ โดยได้สัมภาษณ์ผู้บริหารดิไอคอนกรุ๊ปจริง เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 64 ก่อนที่จะสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย

นายดนุพร ย้ำว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้นิ่งนอนใจ ตนทราบว่าโฆษกพรรคพลังประชารัฐ น้องใหม่ทางการเมือง ที่เกษียณราชการมา จึงไม่ทราบถึงกระบวนการทำงานของสภา โดยเฉพาะคณะกรรมาธิการ ซึ่งตนเข้าใจการที่ออกมาพูดแบบนี้ แน่นอนว่า ต้องการปัดความรับผิดชอบให้พ้นพรรค และก็คงจะต้องทราบว่า ที่ประชุมของรัฐสภา และ สส. มีมติส่งเรื่องคดีดิไอคอนกรุ๊ป ให้กับกรรมาธิการสามัญป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด สภาผู้แทนราษฎร ไปพิจารณา 90 วัน


โดยในวันนี้ ก็มีการเริ่มพิจารณาในการประชุมครั้งแรกแล้ว ตนในฐานะที่เป็นรองประธานกรรมาธิการคณะนี้ แม้มีสมาชิกพรรคพลังประชารัฐบางคนลาออกไปแล้ว แต่ตนได้สอบถามทั้ง ตำรวจ สำนักงานป้องกันและปากปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทำให้ทราบว่า ต่อให้มีการลาออก ก็ไม่สามารถพ้นผิดได้ ยืนยันว่า กมธ.ปปง. ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และจะนำคนผิดทุกคนในกรณีนี้มาลงโทษ แม้ว่าจะออกจากสมาชิกไปแล้ว แต่เมื่อความผิดสำเร็จแล้ว และขณะที่ทำความผิดเป็นสมาชิกพรรคท่านอยู่ จะมาปัดความรับผิดชอบไม่ได้

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยจะมีการดำเนินการอะไรหรือไม่ นายดนุพร กล่าวว่า เราต้องชี้แจง แต่ส่วนข้อกฎหมายว่า จะดำเนินการอย่างไรนั้น ยอมรับว่า ยังไม่มีการพูดคุยกันเรื่องนี้ แต่ในฐานะพรรคแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล และเป็นรัฐบาลต้องแจ้งให้ทุกคนทราบว่า วันนี้พรรคเพื่อไทยทำอะไรอยู่ ท่านนายกฯ ทำอะไรอยู่ ทุกคนที่เกี่ยวข้องกำลังทำหน้าที่อย่างเข้มแข็ง เพื่อเยียวยาพี่น้องประชาชนให้เร็วที่สุด

สำหรับกรณีนักการเมือง ส.เสือ ที่มีความเชื่อมโยงว่าอาจจะเกี่ยวข้องผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทยนั้น ตนเชื่อว่าไม่ว่าจะเป็นใคร อยู่พรรคไหนก็ตาม ถ้าความผิดเรื่องนี้ ปกป้องยากมาก เพราะเป็นจุดสนใจของสังคม เป็นเรื่องที่ประชาชนเสียหายเกือบ 10,000 คน และมูลค่าความเสียหายดีไม่ดีอาจจะถึง 10,000 ล้านบาท เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ หากเกี่ยวข้องกับท่านใดก็ตาม ต่อให้ลาออกไปแล้ว ตนเกรงว่า คงจะปัดความรับผิดไม่ได้

สำหรับการตั้งข้อสังเกตเทวดาตัวจริงอาจอยู่ในพรรคเพื่อไทยนั้น นายดนุพร กล่าวว่า โฆษกพรรคพลังประชารัฐควรไปดูพรรคท่านเองหรือไม่ เพราะที่ออกมาจากคลิปเสียง ก็ความใกล้ชิดกับหัวหน้าพรรคท่าน ตนไม่ทราบจริงๆ ว่าเทวดาจะอยู่พรรคเพื่อไทย หรือพรรคพลังประชารัฐ แต่หากฟังจากคลิปเสียงแล้ว ตนเชื่อว่าไม่น่าจะมาอยู่พรรคตน .314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“วัดพระบาทน้ำพุ” แจงเงินวัด เข้าแล้วออกไปไหน

ลพบุรี 8 ส.ค. – หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ก็มีเสียงสะท้อนออกมาหลายแง่มุม ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินวัดที่มีการเปิดรับบริจาค และการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี ว่ายังมีความจำเป็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

บุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.-กำนัน ทุจริตที่ดินเอื้อนายทุน

สระบุรี 8 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” นำกำลังบุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.สระบุรี-กำนัน ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 600-700 ไร่ เอื้อประโยชน์นายทุนสร้างบ้านพักหรู พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเข้าจับกุมนายวิชยุตม์ อายุ 42 ปี นายช่างสำรวจชำนาญงาน ขณะกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องทำงาน ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี และนายสิปปกร อายุ 57 ปี กำนัน ต.หนองย่างเสือ อ.หมวกเหล็ก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับร่วมกันกระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ หลังพบใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้าบุกรุกหรือครอบครองที่ป่าไม้ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบคาเฟ่ รีสอร์ตหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างบุกรุกผืนป่า จึงเร่งขยายตรวจสอบที่ไปที่มาของการเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว กระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ด้วยการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เพื่อใช้อ้างสิทธิเข้าครอบครอง […]

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]

“บุ๋ม ปนัดดา” พร้อมชน “มาลี”

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – ฮือฮาและเป็นที่พูดถึงอย่างมาก สำหรับการแต่งตั้ง “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” นั่งโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา ด้าน “บุ๋ม” เปิดใจ เป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา พร้อมชน “มาลี” ลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์.-สำนักข่าวไทย