ทส. 9 ม.ค.- กระทรวงทรัพย์ฯ ระดมเจ้าหน้าที่ ให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัยภาคใต้อย่างเต็มที่ ขณะที่กรมป่าไม้วางแผนเปลี่ยนป่าเพิ่มการซับน้ำเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมใต้อย่างยั่งยืน
นายชลทิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้กล่าวว่าจากเหตุอุทกภัยในหลายพื้นที่ของภาคใต้ ว่า ทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทุกกรมทุกหน่วย ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัย โดยในส่วนของกรมป่าไม้ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่กระจายอยู่ทุกพื้นที่จำนวน 130 หน่วย ได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนตั้งแต่เกิดเหตุ โดยประสานกับฝ่ายปกครองและกองทัพภาคที่4 เบื้องต้นได้รับมอบหมายให้ช่วยเหลือในภารกิจลำเลียงอาหารไปให้กับประชาชนในพื้นที่ที่ถูกตัดขาด ช่วยเหลือประชาชนที่ยังตกค้างในพื้นที่ ซ่อมแซมถนนและบ้านเรือนรวมทั้งฟื้นฟูความเสียหายในพื้นที่ที่น้ำเริ่มลดระดับลงแล้ว ซึ่งขณะนี้ยังคงระดมกำลังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า ปัญหาในพื้นที่ภาคใต้ ที่เกิดน้ำหลากและดินถล่มรุนแรงเมื่อเกิดฝนตกหนัก เนื่องจากมีการปลูกพืชเชิงเดี่ยวมาก โดยเฉพาะยางพารา ซึ่งไม่มีรากแก้ว ทำให้ศักยภาพในการดูดซับน้ำต่ำและไม่ยึดเกาะหน้าดิน เพื่อเป็นการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน กรมป่าไม้จึงได้มีโครงการฟื้นฟูป่าซึ่งจะทำเป็นแผนทั่วประเทศโดยในภาคใต้จะเน้นปลูกไม้ยืนต้น แซมในสวนยางพาราในลักษณะสวนสมรม เช่น ไม้ตะเคียน ไม้หลุมพอ ซึ่งเป็นไม้ท้องถิ่นสามารถเติบโตไปร่วมกับต้นยางพาราได้ และจะช่วยยึดเกาะหน้าดินและอุ้มน้ำในกรณีที่เกิดฝนตกหนักได้มากขึ้น
ส่วนภาคเหนือเน้นปลูกแบบป่าสามอย่าง ได้ประโยชน์สี่อย่าง ให้ได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 45 ของพื้นที่ทั้งหมด เช่นเดียวกับภาคอีสาน 19 จังหวัดเน้นปลูกพืชเศรษฐกิจและไม้ที่ใช้เพื่อการค้า เพื่อลดปัญหาการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าและเพิ่มพื้นที่ป่าให้กับประเทศ โดยจะเสนอแผนต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
ส่วนพื้นที่ของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ซึ่งมีอุทยานแห่งชาติที่ได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักและภาวะน้ำท่วมในครั้งนี้หลายแห่งโดยเฉพาะอุทยานแห่งชาติทางทะเล ขณะนี้ไม่มีนักท่องเที่ยวตกค้างในอุทยานและมีการสั่งงดเดินเรือในพื้นที่อุทยานที่ยังมีคลื่นสูง เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น.-สำนักข่าวไทย