ทำเนียบฯ 31 ม.ค.- รมว.คลัง ดึงรัฐวิสาหกิจจับมือขับเคลื่อนเศรษฐกิจ รองรับแผนพัฒนารัฐวิสาหกิจปี 66 ปรับองค์กรรองรับเศรษฐกิจดิจิทัล
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานมอบรางวัลและมอบนโยบายให้แก่รัฐวิสาหกิจ นายกรัฐมนตรีมอบหมาย ให้มอบรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น ปี 2564 ภายใต้แนวคิด “ก้าวสู่ยุควิถีใหม่ด้วยพลังรัฐวิสาหกิจไทยอย่างยั่งยืน Sustainable Moving Towards The Next Normal” นายอาคมย้ำว่าในช่วงปัญหาโควิด-19 รัฐวิสาหกิจทุกแห่งต่างร่วมมือช่วยเหลือประชาชนตามภาระกิจของแต่ละองค์กร ทั้งเรื่องเงินทุน ค่าน้ำประปา ไฟฟ้า การเดินทาง และด้านต่างๆในช่วงปี 63-64 ปัญหาโควิด-19 ได้เปลี่ยนพฤติกรรมองค์กร การใช้ชีวิตประกันวัน ทั้ง WFH ประชุมออนไลน์ ซื้อสินค้า บริการผ่านออนไลน์มากขึ้น
รัฐมนตรีคลัง จึงเรียกร้องผ่านเวที ขอให้ทุกวิสาหกิจทุกแห่งสร้างพลังร่วมมือกัน รองรับแผนพัฒนารัฐวิสาหกิจ จะประกาศบังคับใช้ปี 66 จับคู่ หรือรวมกลุ่ม พี่ช่วยน้อง เพื่อนช่วยเพื่อน รัฐวิสาหกิจ เพราะจะเป็นกลุ่มใหญ่สร้างพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างมาก ตามภาระกิจของแต่ละกลุ่ม เพราะทุกรัฐวิสาหกิจต้องปรับตัวรองรับเศรษฐกิจยุคใหม่หันมาใช้ระบบออนไลน์เป็นหลักตามกระแสโลก เช่น ด้านคมนาคมขนส่ง ต้องเชื่อมโยงการขนส่งสินค้า รองรับรถไฟฟ้า ไทย – สปป ลาว – จีน การเตรียมดูแลสังคมผู้สูงอายุ ทั้งที่อยู่อาศัย สวัสดิการฯคนชรา การผลิตสินค้าต้องมุ่งเน้นดูแลสิ่งแวดล้อม การส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้า รัฐวิสาหกิจด้านพลังงาน และอีกหลายสาขาต้องจับมือกัน
นางปานทิพย์ ศรีพิมล ผู้อำนวยการ สคร. เปิดเผยว่า แผนพัฒนารัฐวิสาหกิจปี 66 ได้นำยุทธศาสตร์ชาติ และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฯ ฉบับที่ 13 มากำหนดเป้าหมาย เพื่อให้รัฐวิสาหกิจ 52 แห่วร่วมกันทำตามแผนในช่วง 5 ปี รองรับโลกยุคดิจิทัล เพื่อร่วมกันเป็นพี่เลี้ยง เพื่อนเลี้ยง น้องเลี้ยง ช่วยเหลือกันทุกด้าน โดยเฉพาะการเร่งรัดโครงการลงทุน ออกสู่ระบบให้ได้ตามเป้าหมายร้อยละ 95 ของแผนลงทุน 3 แสนล้านบาทในปี 65 สคร. จึงได้จัดงานมอบรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น หรือ SOE Award อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานของรัฐวิสาหกิจ
สำหรับผลรางวัล SOE Award ประจำปี 2564 ทั้ง 11 ประเภทรางวัล มีดังนี้
1. รางวัลคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจดีเด่น
(1) ประเภทเกียรติยศ ได้แก่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
(2) ประเภทดีเด่น ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
2. รางวัลการบริหารจัดการองค์กรดีเด่น
(1) ประเภทเกียรติยศ ได้แก่ ธนาคารออมสิน
(2) ประเภทดีเด่น ได้แก่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และธนาคารอาคารสงเคราะห์
3. รางวัลการพัฒนาองค์กรดีเด่น ได้แก่ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย
การยาสูบแห่งประเทศไทย องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย และองค์การเภสัชกรรม
4. รางวัลผู้นำองค์กรดีเด่น ได้แก่ นายสมพงษ์ ปรีเปรม อดีตผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
5. รางวัลการเปิดเผยข้อมูลและความโปร่งใสดีเด่น ได้แก่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
6.รางวัลการดำเนินงานเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมดีเด่น
(1) ประเภทดีเด่น ได้แก่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การไฟฟ้านครหลวง และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
(2) ประเภทชมเชย ได้แก่ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย และการยาง
แห่งประเทศไทย
7. รางวัลความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมดีเด่น แบ่งรางวัลเป็น 2 ด้าน ประกอบด้วย
7.1 ด้านความคิดสร้างสรรค์
(1) ประเภทดีเด่น ได้แก่ การประปานครหลวง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และธนาคารอาคารสงเคราะห์
(2) ประเภทชมเชย – ไม่มีรัฐวิสาหกิจที่ได้รับรางวัล –
7.2 ด้านนวัตกรรม
(1) ประเภทดีเด่น ได้แก่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)(๒) ประเภทชมเชย ได้แก่ การประปานครหลวง การประปาส่วนภูมิภาค การไฟฟ้านครหลวง และธนาคารอาคารสงเคราะห์
8. รางวัลความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์เพื่อการพัฒนาดีเด่น
(1) ประเภทดีเด่น จำนวน 2 คู่ความร่วมมือ ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยและการเคหะแห่งชาติ และ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
(2) ประเภทเชิดชูเกียรติ จำนวน 2 คู่ความร่วมมือ ได้แก่ การประปานครหลวงและองค์การจัดการ
น้ำเสีย และ ธนาคารอาคารสงเคราะห์และองค์การสะพานปลา
9. รางวัลการพัฒนาสู่รัฐวิสาหกิจดิจิทัล ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
10. รางวัลบริการดีเด่น ได้แก่ ธนาคารออมสิน การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และธนาคารอาคารสงเคราะห์
11. รางวัลรัฐวิสาหกิจยอดเยี่ยมประจำปี 2564 ได้แก่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย