“ทักษิณ” ลั่นใช้ลูกแถมพ่อ อ้อนอย่าทำให้ผิดหวัง

นครพนม 18 ม.ค.-“ทักษิณ” ปิด 3 เวทีปราศรัย นครพนม ลั่นใช้ลูกแถมพ่อ อ้อนอย่าทำให้ผิดหวัง เลือกนายกฯ อบจ.เพื่อไทย ให้ถล่มทลาย เลือกแบบไม่เกรงใจใคร เลือกแบบกูจะใช้งาน “ทักษิณ” มีอะไรไหม? แจงพร้อมดันนางแบบระดับโลก ขออย่างเดียวเพศที่ 3 อย่าแปลงเพศ บอกเงินหมื่นเฟส 3 ใจเย็นๆ รอซอฟต์แวร์เสร็จก่อน

นายทักษิณ​ ชิน​วัตร​ อดีต​นายก​รัฐมนตรี​ ขึ้นเวทีปราศรัย จังหวังนครพนม เป็นเวทีที่ 3 ณ อาคารโดมสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ อำเภอศรีสงคราม โดยทันทีที่มาถึง ได้เดินทักทายพี่น้องประชาชน ตั้งแต่ท้ายเวทีจนมาถึงหน้าเวที โดยประชาชนเข้ามาสวมพวงมาลัยดาวเรืองและมอบดอกกุหลาบให้


โดยนายทักษิณขึ้นกล่าวบนเวทีว่า นี่เป็นการกลับมาจังหวัดนครพนมอีกครั้ง ในรอบเกือบ 21 ปี วันนี้ไปปราศรัย ทั้ง3 เวทีก็มากันเยอะมาก และแสดงอาการคิดถึงตน บางที่เขาก็จีบตน ก่อนจะถามมวลชนว่าตนหล่อไหม ความจริงก็หล่อแบบเหี่ยวเหี่ยวนะ เมื่อกี้เดินมาสงสัยพุงตนใหญ่ เลยมีคนมาหอมพุงตน และทุกครั้งที่มาอีสานก็ชื่นใจเพราะพี่น้องไม่เคยลืมเลย ตนคิดว่าไม่อยู่ 17 ปีนี้คงลืมแล้ว แต่ไม่ลืมนะ แล้วจะลืมน้องได้ยังไง ก็ต้องคิดรับใช้ อยากให้พี่น้องสบายเพราะเห็นพี่น้องลำบากกันมานาน ทีแรกก็ทำท่าว่าจะพ้นหนี้ พ้นทุกข์ พ้นยาก แต่ก็โดนปฏิวัติเข้า เที่ยวนี้เอาใหม่ถึงแม้จะแก่แล้ว ยังพอไหว ยังพอช่วยคิดช่วยทำ แก้ปัญหาให้พี่น้อง

ส่วนเรื่องยาเสพติดฝากพี่น้องไปบอกเจ้าหน้าที่ที่ส่งเสริมพวกนี้ด้วย ว่าทักษิณกลับมาแล้ว ไม่ต้องการเห็นหน้าพ่อค้ายาสักคน และถ้าข้าราชการส่งเสริมก็โดนหมด เหมือนกันไม่เหลือ ไม่มีการเก็บไว้ทำพ่อสักคน ก่อนที่จะบอกว่าคนแก่ดุนะเนี่ย


นายทักษิณ ยังถามว่ามีใครโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกโอนเงินอยู่บ้างไหม ก่อนที่จะบอกว่าก็มีเยอะอยู่นะ ปีนี้ที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์พวกคนจีนที่ไปตั้งฐานอยู่ที่เมียนมาร์กับกัมพูชานั้น ก็คุยกันรู้เรื่องแล้วเดี๋ยวจะจัดการ สิ้นปีนี้แก๊งคอลเซ็นเตอร์จบ ยาเสพติดจบ

นายทักษิณ กล่าวว่า ปีนี้ถามประชาชนบอกว่าล้วงกระเป๋าเจอแต่ตั๋วจำนำ แต่ปีหน้าไม่เจอแล้วตั๋วจำนำ จะเจอแต่สตางค์ และปี70 ถ้าเลือกตั้งแล้วพรรคเพื่อไทยกลับมา จะล้วงกระเป๋าไม่ลง เพราะสตางค์มันเยอะไป เพราะฉะนั้นเราจะช่วยกัน สร้างเศรษฐกิจให้ดี เพื่อให้ประชาชนมีความสุข ให้เหมือนสมัยที่ผมอยู่ เงินทองหาง่าย ยืนยันจะต้องเอากลับมาให้ได้ แม้รู้ว่ามันยากกว่าเดิมแต่ไม่เกินความสามารถ เรามีนายกรัฐมตรีอายุน้อยแต่เค้าขยันและเขาสู้ ผมก็ช่วยคิด ทำให้การแก้ปัญหามันทำได้

นายทักษิณ กล่าวต่อว่า ตอนนี้มีนางแบบ 2 คนไทย ซึ่งตอนนี้เกษียณแล้ว เคยเดินแบบชั้นนำ ให้สินค้าแบรนด์เนม หน้าตาอีสาน 100% สวยแบบธรรมชาติ อย่างฝรั่งมาแต่งงานกับคนอีสาน ฉะนั้นวันนี้เราอยากได้ความงามแบบธรรมชาติ ไม่ใช่เฉพาะผู้หญิง ผู้ชายก็ได้ หรือเพศที่ 3 ก็ได้ ขอให้เป็นธรรมชาติอย่าเพิ่งแปลงเพศแล้วกัน เราจะเอามาเสริมพัฒนาไม่ต้องทำอะไร แค่นุ่งผ้าถุงมา จะได้รู้ว่าเป็นธรรมชาติ


ส่วนเรื่องหวย นายทักษิณกล่าวว่า ต้องเอาของใต้ดินขึ้นมาบนดิน เสียภาษีฝากเงินกัน ปีนึง 3 ล้านล้านบาท ถ้าเก็บภาษี 1% ก็จะได้ 30,000 ล้านบาท ที่เล่นได้เสียปีละ 5 แสนล้านบาท เก็บภาษี 20% ได้ประมาณแสนล้าน เอาเงินเหล่านี้มาสร้างปัญญา ด้วยการให้การศึกษาไปเรียนต่างประเทศ ซึ่งนอกจากได้ภาษีก็ยังสามารถควบคุมได้ด้วย ส่วนคนที่เล่นอย่างเมามัน ก็จะเอาไปหาจิตแพทย์ เพื่อบำบัดรักษาจะได้เลิกเล่น ขอให้เล่นอย่างมีสติ วันนี้เล่นกันมั่วไปหมด เมื่อเก็บภาษีไม่ได้ เงินก็ไปอยู่ใต้ดิน ไม่สร้างเศรษฐกิจ ถ้าเงินอยู่บนดินก็สร้างเศรษฐกิจได้

นายทักษิณ กล่าวว่าผมทุกข์ใจอีกอย่างนึง คือเงินบ้านนอกเรา ไม่มีเงิน หายหมด เงินไม่อยู่ในจังหวัดในอำเภอ พอถึงเวลาซื้อของร้านค้ามาจากกรุงเทพฯ ก็ส่งไปกรุงเทพฯ กำลังหาทางแก้ให้เงินอยู่กับพี่น้อง จะได้จับจ่ายใช้สอยคล่อง ใครที่อายุเกิน 60 ปี วันที่ 27 มกราคมนี้ เตรียมรับเงินหมื่น ส่วนคนต่ำกว่า 60 ปี กำลังรอซอฟต์แวร์เสร็จก็จะมา จะทำการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระบบ ให้พี่น้องกลับมามีอำนาจใช้เงินอีกครั้ง แต่ทำงานทั้งหมด พรรคเพื่อไทยต้องการคุยในพื้นที่ดูแลเต็มที่ เรามี 2 สส. จาก 4 เขต คนหนึ่งเป็นรัฐมนตรี วันนี้อยากได้ อบจ.มาช่วย หวังว่าพี่น้องจะเลือก ตนบ้ายอ ถ้าอยากยอตน ต้องเลือก อบจ.ให้ตน ตนจะได้รู้ว่าพี่น้องนครพนม ยังอยากใช้งานตนเองอยู่ เพื่อตนจะได้เป็นแกนเป็นมือเป็นไม้เชื่อมโยงพี่น้องไปยังพรรคยังรัฐบาลได้ ตนเองมาขอถึงที่แล้ว ผู้สมัครอายุน้อย ยังมีแรงทำงาน ตนเป็นคนขยันชอบใช้มือไม้ที่แข็งแรงและขยัน ต้องเลือกให้ตนนะ ที่สัญญาอะไรไว้ทำหมด แต่มีขั้นตอนอยู่ สัญญาแล้ว ทำแน่ ทำได้ และได้ทำ

นายทักษิณ กล่าวถึงสินค้าโอทอป ว่า เมื่อก่อนชาวนครพนมขายสินค้าโอทอปได้ ตอนนี้หายไปแล้ว พอตนไม่อยู่ของดีๆ ถูกปู้ยี่ปู้ยำ วันนี้เราต้องนำโอทอปกลับมาและพัฒนาให้ทันสมัยมากขึ้น ทุกครัวเรือนเป็นโรงงานอุตสาหกรรมผลิตสินค้าโอทอปขายทั่วโลก ตอนนี้กำลังออกแบบเพื่อเชื่อมโยงโอทอปเดิมให้สมัยใหม่ ให้ขายได้ทั่วโลก ซึ่งตนจ้างต่างชาติตั้งแต่สมัยนายกฯปู แต่พอทำนายกฯปู ถูกกระทำ ซึ่งตนออกเงินส่วนตัวไป 300 ล้าน วันนี้ให้ทำใหม่อีกทีต้องจ่าย 400 ล้าน ไม่เป็นไร “ชีวิตอ่ะเนอะ คนเราเหลืออีกเวลาไม่นานอีกเท่าไหร่ 76 แล้ว เหลืออีก 40 ปี คนเราต้องมีความหวังไว้ก่อน”

นายทักษิณ กล่าวอีกว่า ตนเป็นคนดูแลตัวเอง เมื่อก่อน 30 บาทรักษาทุกโรค ตนต้องทำสองอย่าง คือป้องกันและรักษา พอตนออกไปก็เลิกรักษา แต่ประชาชนไม่ยอมจึงต้องป้องกัน วันนี้เรากลับมาใหม่ ต้องเชิญชวนคนออกกำลัง มีการเต้นแอโรบิก สอนทำอาหารให้ถูกต้องเหมาะสมให้ร่างกายดี และยังมี อสม. ไปตรวจเยี่ยมพร้อมแพทย์เพื่อเช็คสุขภาพประชาชน และต่อไปเทคโนโลยีใหม่การตรวจเยี่ยมประชาชนง่ายมาก สามารถยิงสัญญาณเข้าโรงพยาบาลได้ตลอด พี่น้องต้องรักษาสุขภาพ ต้องดูแลตัวเอง ตอนนี้เทคโนโลยีใหม่ใหม่เกิดขึ้นแล้ว เรื่องสุขภาพปัญหาคือจะต้องช่วยกัน

” ผมนั่งรถผ่านริมแม่น้ำโขงเห็นบางช่วงมีน้ำมากจึงคิดว่าทำไมไม่เก็บน้ำไว้ ตอนนั้นผมตรวจน้ำท่วมนครพนม รู้สึกว่าน้ำโขงล้นบ่อยทำไมเราไม่เก็บไว้ แต่สักพักก็โดนปฏิวัติ วันนี้เรื่องปฏิวัติไม่ต้องห่วง ไม่มีแล้ว ไม่มีแล้ว การเมืองวันนี้นั่งฟังข่าว หมาเห่าตรงนั้นตรงนี้ ไม่ต้องกังวลรัฐบาลนี้ไม่เลือกตั้งก่อนปี 70 แน่นอน ปี 68-69 ต้องเอาตั๋วจำนำทิ้งไปก่อน แล้วค่อยเลือกตั้ง ไม่ต้องกังวลข่าวการเมืองว่าจะยุบสภา พรรคนั้นทะเลาะกับพรรคนี้ ไม่มี สบายมาก ทำงานกันมาตั้งแต่สมัยไทยรักไทยแล้ว รู้จักกันหมด สนิทกันหมด ตนดีตรงที่เป็นคนแก่ ด่าเด็กได้ เพราะฉะนั้นเด็กเกเรด่า ได้เรามันแก่แล้ว “ นายทักษิณกล่าว

นายทักษิณ ยังกล่าวต่อว่า เรื่องไฟฟ้า มาปราศรัยพูดดัง ๆ เลยว่า อยากได้ 3.70 บาท ตอนนี้กำลังจะได้ บ่นเสียงดังๆไปเดี๋ยวมีคนอยากทำ เพราะเขารู้ว่าตนทำให้ประชาชน ตนรักประชาชน ดังนั้นตนบ่นอะไรก็ช่วยทำหน่อย ราคาไฟฟ้าอีกไม่นานจะลงมาแล้ว เมื่อราคาไฟฟ้าลงได้ ราคาปุ๋ยกับยางก็ลงได้ ส่วนน้ำมันตนก็ตั้งคำถามแต่ไม่มีใครยอมตอบ ว่าทำไมต้องอ้างอิงราคาสิงคโปร์ ซึ่งสิงคโปร์ผลิตน้ำมันไม่ได้สักหยด ไปอ้างอิงทำไม ตนจึงบอกว่าไปทบทวนให้หน่อย ไม่เป็นไรมันไม่ลงเดี๋ยวทุบจนลง บังเอิญว่าตอนตนเป็นนักเรียนเตรียมหทาร สอบได้คณิตศาสตร์คะแนนสูงสุด เก่งตัวเลข คำนวณแป๊บเดียว ก็รู้ว่าตรงนี้มันซ่อนเอาไว้ เอาไปบวกแล้วเอามาเก็บกับประชาชน ต่อไปจะลดลงไปเรื่อย ๆ และราคาอาหารสัตว์ลดลงเรื่อย ๆ เพราะการผูกขาดทำให้ประชาชนยากจน ฉะน้้น ต้องลดการผูกขาด ถ้าคุยกันไม่รู้เรื่อง เปิดเสรีให้หมด อย่าไปทำงานง่าย อยากได้ต้นทุนเท่านี้ กำไรเท่านี้ ไปคิดเอากับประชาชน ประชาชนตาดำ ๆ โดนแล้วโดนอีก มันไม่ไหว วันนี้เราคุยกันแล้วห้ามทุกคนเอาเปรียบประชาชน ผมกลับมาแล้วผมจะเฝ้าดูเอง เดี๋ยวฝ่ายค้านก็ด่าผมอีก ผมมีหน้าที่อะไรมาสั่งงานอย่างนี้ แต่ผมมีตำแหน่งใหญ่ไง สทร. เสือกทุกเรื่อง ผมเสือกให้ประชาชนใครมีอะไรไหม

นายทักษิณ กล่าวว่าวันนี้ตนลงเครื่องบินที่จังหวัดสกลนคร ปราศรัย3เวที ลูกสาวบอกว่า พ่อ3เวทีพอแล้วนะ ตนมีรายได้ดีแล้ววันนี้ ได้เวทีละ 100 บาท บวกกับเงินเดือนคนชราอีก 700 บาท ก็มาหาลำไพ่ด้วยการปราศรัย รวยขึ้นเยอะ ตามภาษาไก่เลยต้นก็ต้องทำมาหากินตามประสาไก่เอ๋ย คนนครพนมอยากใช้งานตนไหม ให้จัดการปัญหายาเสพติด อยากให้มาแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้หรือไม่ ตนอุตส่าห์มาถึงที่นี่อย่าทำให้ผิดหวัง เลือกผู้สมัครของพรรคให้ถล่มทลาย เลือกแบบไม่ต้องเกรงใจใคร เลือกแบบกูจะใช้งานทักษิณมีอะไรไหม ผู้สมัครอายุน้อย ยังใช้งานได้เยอะๆ ใช้สมัยนี้แล้วสมัยหน้าต้องใช้อีก ใช้ลูกแถมพ่อ.-313.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

กองทัพบกประณามกัมพูชา โจมตีเป้าหมายพลเรือนในเขตไทย

กทม. 24 ก.ค.-กองทัพบก ประณามการกระทำของฝ่ายกัมพูชา กรณีใช้อาวุธโจมตีเป้าหมายพลเรือนในเขตแดนไทย กองทัพบกขอประณามการกระทำอันรุนแรงและไร้มนุษยธรรมของฝ่ายกัมพูชา จากกรณีที่มีการใช้อาวุธจรวด BM-21 จำนวน 2 นัด ยิงเข้ามาในพื้นที่ชุมชนภายในศูนย์พัฒนาพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อเวลา 09.40 น. วันนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ราษฎรได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ซึ่งฝ่ายไทยได้ดำเนินการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่โดยทันที เพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังเฝ้าติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งเตรียมมาตรการรองรับอย่างรอบด้าน ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติม จะได้รายงานให้ทราบต่อไปโดยเร็วที่สุด.-313.-สำนักข่าวไทย

น่าน จมมาบาดาลเกือบทั้งเมืองแล้ว

น่าน 24 ก.ค.-น้ำท่วมตัวเมืองน่านวิกฤติหนัก หลังน้ำยังเพิ่มสูงบางจุดท่วมมิดชั้น 2 แล้ว และขยายวงกว้างออกไปในรัศมีเกือบ 10 กม. รวมทั้ง รพ.น่าน ที่ต้องย้ายผู้ป่วยไปที่สนามบิน น้ำท่วมตัวเมืองน่านเรียกว่าสาหัสสากรรจ์จริงๆ ตอนนี้เมืองน่านจมมาบาดาลเกือบทั้งเมืองแล้ว จากที่ประเมินเท่ากับน้ำท่วมใหญ่ปี 49 ซึ่งเป็นน้ำท่วมใหญ่รอบร้อยปี แต่ตอนนี้น่าจะหนักเกินแล้ว น้ำท่วมถึงชุมชนสวนตาล ซึ่งอยู่ห่างจากริมน้ำน่าน 4 กิโลเมตร แม้จะเห็นว่าระดับไม่สูง แต่ด้านในสูงถึงคอแล้ว การเข้าออกต้องใช้เรือเพียงอย่างเดียว และน้ำยังเพิ่มขึ้น ชาวบ้านยังเร่งอพยพข้าวของออกมา เขตเศรษฐกิจเมืองน่านไม่ต้องพูดถึงจมน้ำสูงกว่า 1 เมตร วัดวาอารามหลายแห่งถูกน้ำท่วม และยิ่งชุมชนใกล้น้ำน่านบ้านเรือนหลายพันหลังถูกน้ำท่วมสูง บางจุดน้ำท่วมถึงชั้น 2 ของบ้าน อย่างเจ้าของบ้านรายนี้ถ่ายภาพจากชั้น 2 ของบ้านย่านชุมชนบ้านพระเกิด ไม่ไกลจากโรงพยาบาลน่าน ส่งมาให้ทีมข่าว จะเห็นว่าน้ำท่วมสูงเกินรั้วบ้านและกำลังจะขึ้นชั้นสอง และมีชาวบ้านที่ติดอยู่ในบ้านกลางน้ำท่วมสูงอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่พยายามจะเข้าไปช่วยแต่เรือมีจำกัดและน้ำยังไหลเชี่ยว ทำให้บางจุดยังไม่สามารถเข้าไปได้ ชาวบ้านบางส่วนต้องเดินฝ่าน้ำท่วมสูงถึงคอออกมาด้านนอก เพื่อหาอาหารและน้ำดื่ม รวมทั้งโรงพยาบาลน่านที่ถูกน้ำท่วมตั้งแต่เมื่อคืน เจ้าหน้าที่เพิ่งออกมาจากโรงพยาบาลบอกว่า ตอนนี้น้ำท่วมสูงมาก ตึกอาคารเก่าน้ำท่วมถึงหน้าอก แต่ผู้ป่วยในราว 3 ร้อยคนอยู่บนตึกใหม่ตั้งแต่ชั้น 2 ปลอดภัยดี […]

เปิดแผน “จักรพงษ์ภูวนารถ” ป้องกันประเทศจากภัยคุกคาม

กทม. 24 ก.ค.-เปิดแผน “จักรพงษ์ภูวนารถ” ป้องกันประเทศจากภัยคุกคามฝ่ายตรงข้าม โฆษก ทบ. ชี้ชัดเจนแล้ว กัมพูชา เป็นฝ่ายที่บีบบังคับเรา ซัดเราคงไม่ปล่อยให้ใครเอาเปรียบ หรือลอบทำร้าย จากนี้จำเป็นต้องทำในสิ่งที่พยายามหลีกเลี่ยงมาตลอด ลั่นขณะนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้! ขอให้พี่น้องคนไทย เชื่อมั่นในศักยภาพของกองทัพไทย พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ระบุถึงแผนจักรพงษ์ภูวนารถ ที่เราเปิดปฏิบัติการ ว่าคือ แผนป้องกันประเทศ ที่กำหนดหน้าที่ของแต่ละหน่วย และกำลังทางทหาร และให้เตรียมความพร้อม เมื่อมีคำสั่ง เป็นแผนที่ได้ถูกกลั่นกรอง โดยประเมินจากสถานการณ์ และสภาพแวดล้อมในกิจการป้องกันประเทศ ในกรอบของกองทัพบก ที่ผ่านมา ในศึกเขาพระวิหาร ที่ใช้แผนนี้ ปัจจุบันขีดความสามารถกำลังรบเราเป็นอย่างไร โฆษก ทบ. ระบุพัฒนามาตามลำดับ และพิจารณาให้เหมาะสมกับภัยคุกคาม และขีดความสามารถของฝ่ายตรงข้าม ป้องกันภัยคุกคามจากฝ่ายตรงข้าม ส่วนแผนหลักๆ เป็นการป้องกัน หรือรุกคืบ โฆษก ทบ. ระบุ อาจจะพูดไม่ได้ แต่โดยปกติ อันดับแรกต้องครอบคลุมอธิปไตยของเราก่อน ส่วนเป็นการซีลชายแดนหรือไม่ โฆษก ทบ. ระบุพูดง่ายๆ แผนนี้ […]

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย