กกต. 9 ม.ค.- บุญส่ง เชื่อ หลัง พ.ร.ป.ว่าด้วย กกต. ฉบับใหม่ ใช้บังคับ ช่วยทำคดีมีประสิทธิภาพ ลดปมศาลยกฟ้องได้ เผย เตรียมความพร้อมพนักงานรอบรับแล้ว
นายบุญส่ง น้อยโสภณ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านสืบสวนสอบสวน กล่าวถึง การเตรียมความพร้อมด้านการสืบสวนสอบสวน เพื่อรองรับการบังคับใช้ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่า กฎหมายใหม่เพิ่มอำนาจสืบสวนให้ กกต. ทำให้การทำงานจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะให้เจ้าหน้าที่ กกต.เป็นเหมือนนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ สามารถตรวจค้น ยึดอายัด และยังมีการคุ้มครองพยาน มีรางวัลนำจับสำหรับผู้ชี้เบาะแสการทุจริตเลือกตั้ง
“ที่ผ่านมา กกต.เตรียมความพร้อมไว้พอสมควร จัดอบรมพนักงานสืบสวนสอบสวน 3 รุ่น รวม 330 คน เชื่อว่าจะช่วยในการหาพยานหลักฐานเกี่ยวกับการพิจารณาคดี และได้กำชับเจ้าหน้าที่ไปแล้วว่า เมื่อมีอำนาจมากขึ้น ก็ต้องใช้ประโยชน์ เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากที่สุด” นายบุญส่ง กล่าว
นายบุญส่ง กล่าวว่า ในส่วนที่กฎหมายให้อำนาจ กกต. ในการตั้งงบหาข่าวเป็นงบลับนั้น กกต.จะมีการออกระเบียบรองรับ เพื่อให้การใช้งบดังกล่าวสามารถตรวจสอบได้ ในปัจจุบัน กกต.อยู่ในระหว่างการสร้างเครือข่ายการข่าวเพราะที่ผ่านมาการข่าวของ กกต.ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง แม้ว่าจะใช้เงินจำนวนมาก จึงได้ตั้งคณะทำงานเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงาน เช่น ดีเอสไอ กรมการปกครอง กรมบังคับคดี สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กองบัญชาการตำรวจสันติบาล ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ
“คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 6 เดือนนับจากนี้ ซึ่งจะช่วยในการหาพยานหลักฐานให้เกิดความรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น หลังจากที่กฎหมายมีผลบังคับใช้ เชื่อว่าการพิจารณาสำนวนคดีจะทำได้รวดเร็วมากขึ้น และจะช่วยลดปัญหาในอดีต ที่เมื่อคดีไปสู่ชั้นศาล จะถูกยกฟ้อง ประมาณ 40-50 % ลง” นายบุญส่ง กล่าว
นายบุญส่ง กล่าวว่า ที่ผ่านมาคดีที่ยกฟ้อง มักเกิดจากพยานไม่ไปให้ปากคำในชั้นศาล หรือ กลับคำให้การ แต่เมื่อมีการคุ้มครองพยาน และกฎหมายยังให้ กกต.ใช้วิธีการบันทึกภาพและเสียงคำให้การของพยาน เป็นหลักฐานในศาล ก็มั่นใจมากขึ้นว่า ศาลจะยืนตามสำนวนที่ กกต.เสนอ เนื่องจากกฎหมายเขียนให้ยึดสำนวน กกต.เป็นหลักในการพิจารณา ประกอบกับก่อนหน้านี้ได้ประชุมทำความเข้าใจกับศาลในเรื่องการทำสำนวนไปแล้ว และจะนัดหารือกับศาลอีกครั้ง หลังกฎหมายบังคับใช้ ว่าจะยังยึดแนวทางดังกล่าวหรือไม่ .- สำนักข่าวไทย