ก.คลัง 10 ม.ค. – นางสาวสุทธิรัตน์ รัตน์โชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังขยายวงเงินทดรองราชการ ในอำนาจอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเพิ่มอีก 50 ล้านบาท จากเดิมที่มีวงเงิน 50 ล้านบาท และได้ใช้จ่ายเงินภายในวงเงินดังกล่าวเกือบครบแล้ว ซึ่งไม่เพียงพอกับการให้ความช่วยเหลือสำหรับภารกิจเร่งด่วนครั้งนี้ และเนื่องจากขณะนี้พื้นที่ภาคใต้ยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่น ประกอบกับคาดว่าลักษณะอากาศภาคใต้ยังคงมีฝนตกหนาแน่นต่อไปจนถึงช่วงกลางเดือนมกราคม 2560 ทำให้ต้องขยายวงเงินทดรองราชการเพิ่มอีก โดยขณะนี้มีจังหวัดที่ประกาศขอรับความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินแล้ว 8 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช นราธิวาส พัทลุง ปัตตานี ตรัง และสงขลา มีพื้นที่ประสบภัยรวม 89 อำเภอ 540 ตำบล 4,145 หมู่บ้าน มีผู้เสียชีวิต 21 ราย สูญหาย 1 ราย ข้อมูลวันที่ 8 มกราคม 2560
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังยังอนุมัติขยายวงเงินทดรองราชการให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัด เพิ่มจากเดิมที่เคยได้รับอีก 50 ล้านบาท เพื่อนำเงินจำนวนดังกล่าวไปใช้จ่ายสำหรับกรณีที่ต้องใช้วัสดุ อุปกรณ์ หรือยานพาหนะพิเศษ ซึ่งมีความจำเป็นต่อการช่วยเหลือด้านต่างๆ รวมถึงความจำเป็นในการจัดส่งเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับประชาชนในพื้นที่ที่น้ำท่วมสูงอย่างรุนแรง มีน้ำป่าไหลเชี่ยวกราก ดินโคลนถล่ม ซึ่งค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเหล่านี้หลักเกณฑ์เดิมเบิกจ่ายไม่ได้ แต่สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้กระทรวงการคลังให้สามารถเบิกค่าใช้จ่ายในกรณีดังกล่าวได้
“การขยายวงเงินทดรองราชการเพิ่มอีก 50 ล้านบาท มีเป้าหมายให้ความช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อน แก่ประชาชนผู้ประสบภัยทุกจังหวัดในภาคใต้ที่เกิดภาวะน้ำท่วมหนักรุนแรงและต่อเนื่อง เกิดความเสียหายเป็นบริเวณกว้างได้อย่างรวดเร็ว ทันต่อสถานการณ์ ทั่วถึง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องปฏิบัติงานด้านความช่วยเหลือได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น ทำให้ผู้ประสบภัยมีเงินเพียงพอกับการใช้จ่ายในช่วงเวลาวิกฤติ ซึ่งจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนได้ทันท่วงที นอกจากนี้ ยังเป็นการตอบสนองนโยบายรัฐบาลในการบูรณาการแก้ปัญหาความเดือดร้อนเฉพาะหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น” นางสาวสุทธิรัตน์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย