พาณิชย์จับมือภาคเอกชนจัดงานใหญ่ “Start to SMART 2017”

นนทบุรี 11 ม.ค. – พาณิชย์จับมือภาคเอกชนจัดงานใหญ่ “Start to SMART 2017”  เปิดเวทีเชื่อมเอสเอ็มอี-สตาร์ทอัพ ต่อยอดธุรกิจร่วมกัน สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ เน้นใช้นวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์


นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับภาคเอกชนทั้งในและต่างประเทศจัดงาน “Start to SMART 2017” ภายใต้แนวคิด “From Pain to Gain : โอกาสสู่ธุรกิจยุคใหม่” ซึ่งจะเป็นเวทีสำคัญในการเชื่อมต่อและสร้างเครือข่ายระหว่างผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพของไทยให้มีการต่อยอดธุรกิจร่วมกัน  เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการเดินหน้าประเทศไทยสู่ Thailand 4.0

สำหรับงาน “Start to SMART 2017” เป็นการร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับภาคเอกชน  อาทิ สมาคมการค้าเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการเทคโนโลยีรายใหม่  สมาคมไทยผู้ประกอบธุรกิจเงินร่วมลงทุน  ซีอาเซียน  เทคซอส  เครือข่ายประชาคม  สตาร์ทอัพคนรุ่นใหม่ของไทย สถาบันการศึกษา และสถาบันการเงิน  เป็นต้น ทั้งนี้  เพื่อส่งเสริมการเพิ่มประสิทธิภาพเอสเอ็มอีไทย ปรับวิธีคิดเปลี่ยนพฤติกรรมผู้ประกอบการไทยให้ก้าวสู่การเป็น “นักธุรกิจ 4.0” หรือ “Smart Enterprise” รวมทั้งสนับสนุนการเติบโตของสตาร์ทอัพ ซึ่งเป็นรูปแบบที่เกิดขึ้นจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยี แนวคิดนวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์ของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้ก้าวหน้าต่อไป


ทั้งนี้ หัวใจสำคัญของการจัดงาน คือ การเปิดโอกาสให้เอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพไทยได้ทำความรู้จัก เชื่อมต่อและสร้างเครือข่ายระหว่างกัน เพื่อปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจของไทยไปสู่ “Value-Based Economy” หรือ “เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม” โดยใช้จุดแข็งของเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพมาเกื้อหนุน ส่งเสริม และเติมเต็มซึ่งกันและกัน เช่น นำนวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ และเทคโนโลยี ที่กลุ่ม สตาร์ทอัพคิดค้น  ช่วยปิดจุดอ่อน  – เพิ่มจุดแข็งเอสเอ็มอี เพื่อผลักดันให้ธุรกิจสามารถดำรงอยู่และเติบโตต่อไปได้ด้วยความมั่นคง  ขณะที่เอสเอ็มอีใช้ประสบการณ์และเครือข่ายที่มีอยู่เป็นพี่เลี้ยงและคู่ค้าให้แก่ สตาร์ทอัพ  เพื่อดันให้แจ้งเกิดบนถนนสายธุรกิจได้รวดเร็วและถูกทางมากยิ่งขึ้น  รวมทั้งพัฒนาให้เป็น Smart SME เต็มตัว ซึ่งถือว่าเป็นการเกื้อหนุนที่ทรงพลังและคุ้มค่าที่สุด นอกจากนี้ งานดังกล่าวยังสามารถตอบโจทย์ได้ว่า “ภาครัฐไม่ได้ทิ้งกลุ่ม 1.0  2.0 และ 3.0 แต่ใช้วิธีการพัฒนาธุรกิจอย่างเป็นขั้นตอนและมีการเชื่อมโยงเครือข่ายเพื่อสร้างความเข้มแข็งอย่างเป็นระบบและเป็นรูปธรรม

อย่างไรก็ตาม กลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมงานมีประมาณ 2,000 ราย ประกอบด้วย 1.เอสเอ็มอีกลุ่มธุรกิจใหม่ที่เปิดธุรกิจมาน้อยกว่า 1 ปี  2.เอสเอ็มอีรุ่นใหม่ที่สืบทอดกิจการและผู้บริหารรุ่นปัจจุบัน  3.กลุ่มธุรกิจที่มีแบรนด์และสินค้าที่พร้อมก้าวสู่ตลาดโลก  4.กลุ่มผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ  และ 5.บุคคลทั่วไปที่สนใจการทำธุรกิจยุคใหม่ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยผลที่คาดว่าจะได้รับ คือ ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มยอดขายของเอสเอ็มอีในการดำเนินธุรกิจร้อยละ 40  รวมทั้งสามารถขยายฐานลูกค้าของกลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัพเพิ่มขึ้น ภายในงานฯ นอกจากการเชื่อมต่อสร้างเครือข่ายของเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพแล้ว ยังมีการแบ่งกิจกรรมออกทั้งสิ้น 4 โซน

ทั้งนี้ ขอเชิญผู้ประกอบการเอสเอ็มอี กลุ่มสตาร์ทอัพ และประชาชนทั่วไปที่สนใจเริ่มต้นประกอบธุรกิจเข้าร่วมงาน “Start to SMART 2017” ระหว่างวันที่ 16 – 18 กุมภาพันธ์ 2560 ณ รอยัล พารากอนฮอลล์ ฮอลล์ 1 – 3 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ระหว่างเวลา 10.00 – 20.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองพัฒนาผู้ประกอบธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า โทร 0 2547 5158 e-Mail :start2smart2017@gmail.com สายด่วน 1570 หรือ www.dbd.go.th”  .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เมียติด GPS รถผัว ตามง้อถึงบ้าน ฝ่ายชายเมิน ยิงดับ

ภรรยาติด GPS รถสามี ตามง้อไม่สำเร็จ ซัดด้วยลูกโม่ตายคาใต้ถุนบ้าน คาดปมทะเลาะหึงหวง คิดจบชีวิตตัวเองตาม แต่พ่อสามียึดปืนไว้ทัน

ครูสูญเงิน 1.2 ล้านบาท มิจฉาชีพหลอกเป็นที่ดิน-จนท.ธนาคาร

ครูสาวชาวอุบลราชธานี ถูกมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นหน่วยงานราชการ และเจ้าหน้าที่ธนาคาร ใช้เบอร์ธนาคารโทรหาจึงหลงเชื่อ สูญเงินกว่า 1.2 ล้านบาท

สุราษฎร์ฯ คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงท่วมบ้าน-รีสอร์ต

ฝนตกหนัก-คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงซัดบ้านพัก-รีสอร์ต อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี พังเสียหาย 4 หลัง เตือนเรือประมงงดออกจากฝั่ง

New threats in Los Angeles as wildfire switches direction

ไฟป่าแอลเอเปลี่ยนทิศสร้างปัญหาใหม่

ลอสแอนเจลิส 12 ม.ค.- รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเกิดภัยคุกคามใหม่วานนี้ เมื่อไฟป่าที่โหมไหม้เผาหลายพื้นที่ทั่วเทศมณฑลลอสแอนเจลิสหรือแอลเอเคาน์ตี้ได้เปลี่ยนทิศทาง ทำให้ต้องสั่งอพยพประชาชนเพิ่มเติม และกลายเป็นปัญหาท้าทายใหม่สำหรับทีมนักดับเพลิง พื้นที่เขตแคลิฟอร์เนียใต้เผชิญไฟป่ามาตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม โดยเกิดไฟป่าพร้อมกัน 6 จุดทั่วแอลเอเคาน์ตี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 11 คน  ผู้สูญหาย 13 คน  บ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างเสียหายหรือถูกทำลายรวมแล้วกว่า 10,000 หลัง คาดว่าความเสียหายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินจะเพิ่มขึ้นอีก เมื่อเจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจสอบพื้นที่ประสบภัยได้อย่างละเอียด ขณะนี้ยังคงมีประชาชน 153,000 คนอยู่ภายใต้คำสั่งอพยพ และอีก 166,800 คน เสี่ยงต้องอพยพเนื่องจากมีการประกาศเคอร์ฟิวในทุกพื้นที่ที่มีการอพยพประชาชนหนีไฟป่า ขณะเดียวกันเครื่องบินกองทัพอากาศของเม็กซิโกได้ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเมื่อวานนี้ เพื่อนำทีมบุคคลากร 74 คนจากกองทัพบกและคณะกรรมาธิการป่าไม้แห่งชาติ ไปช่วยปฏิบัติการดับไฟป่าที่กำลังลุกไหม้ลามไม่หยุดทั่วเขตแคลิฟอร์เนียใต้ ภารกิจด้านมนุษยธรรมดังกล่าวครอบคลุมทั้งปฏิบัติการดับไฟป่าและปกป้องพลเรือน ขณะที่กงสุลเม็กซิโกในเมืองแอลเอประกาศไม่ปิดทำการและเสนอให้ที่พักพิงกับผู้ประสบภัยชาวเม็กซิโก ไม่ว่าจะมีสถานะเป็นผู้อพยพหรือไม่ ปัจจุบันมีชาวเม็กซิโกหรือลูกหลานชาวเม็กซิโกอาศัยอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนียคิดเป็นเกือบร้อยละ 30 ของประชากรทั้งรัฐ.-820(814).-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

Satellite images show Palisades Fire

ไฟป่าแอลเอเหลือเผาไหม้รุนแรง 3 จุด

ไฟป่าในเทศมณฑลลอสแอนเจลิส หรือแอลเอเคาน์ตี้ ของสหรัฐ ยังเหลือลุกไหม้รุนแรงอยู่ 3 จุด ภัยคุกคามจากไฟป่ายังคงสูงจนถึงวันพุธ เนื่องจากกระแสลมพัดกระโชกแรง

ดอยอินทนนท์หนาวจัด

อากาศหนาวปกคลุมภาคเหนือ ยอดดอยอินทนนท์ อุณหภูมิเหลือ 1 องศาฯ

อากาศหนาวระลอกใหม่ปกคลุมภาคเหนือ ทำให้ยอดดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ อุณหภูมิลดลงเหลือแค่ 1 องศาฯ ส่วนจุดชมวิวกิ่วแม่ปาน เช้าวันนี้ (13 ม.ค.) อุณหภูมิ 5 องศาฯ นักท่องเที่ยวรอชมแสงแรกจนเต็มพื้นที่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสานตอนบน หนาวจัด กทม.อุณหภูมิต่ำสุด 16 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือตอนบน ภาคอีสานตอนบน อากาศหนาวจัด ส่วนประเทศไทยตอนบน ภาคใต้ตอนบน อุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อยกับมีลมแรง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 16-19 องศาฯ

รถรางโดยสารชนกันในฝรั่งเศส บาดเจ็บ 68 คน

รถรางโดยสาร 2 ขบวน ชนประสานงากันในเมืองสตราสบูร์ก ทางตะวันออกของฝรั่งเศส เมื่อวันเสาร์ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 68 คน