นนทบุรี 2 มี.ค. – พาณิชย์เร่งพิจารณาการออกสิทธิบัตรค้างกว่า 30,000 คำขอ หลัง คสช.เห็นชอบให้ใช้ ม.44 ส่วนการออกสิทธิบัตรยาจะต้องมีคณะกรรมการอาหารและยาเป็นผู้พิจารณาร่วมด้วย
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า จำเป็นต้องใช้มาตรา 44 เพื่อแก้ปัญหาการออกสิทธิบัตร เนื่องจากปัจจุบันมีคำขอสิทธิบัตรค้างมากถึง 36,000 คำขอทั้งสิทธิบัตรคนไทยและต่างชาติ ขณะที่เจ้าหน้าที่มีเพียง 24 คน ซึ่งคำสั่งของ คสช.ทำให้สามารถเพิ่มบุคลากรอีก 120 คน ซึ่งจะต้องฝึกฝนให้มีความเชี่ยวชาญภายในเวลา 2 ปี เนื่องจากต้องตรวจสอบคำขอจากต่างประเทศด้วย
ทั้งนี้ บุคลากร 1 คนต้องตรวจสอบคำขอถึง 325 คำขอ ขณะที่มาเลเซีย 110 คนต่อ 77 คำขอ ฟิลิปปินส์ 49 คนต่อ 83 คำขอ เวียดนาม 58 คนต่อ 77 คำขอ การเพิ่มบุคลากรจะช่วยให้การพิจารณาสิทธิบัตรทำได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ จะใช้วิธีตรวจสอบที่มีการยื่นคำขอไว้แล้วในต่างประเทศว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์ใหม่ที่มีการตรวจสอบแล้วมาอ้างอิงจะช่วยทำให้การตรวจสอบและการออกสิทธิบัตรทำได้เร็วขึ้น
ส่วนข้อกังวลเรื่องสิทธิบัตรยานั้น คณะกรรมการอาหารและยาจะเป็นผู้ตรวจสอบอีกครั้งว่าจะให้ขึ้นทะเบียนยาได้หรือไม่ สำหรับราคายา กระทรวงพาณิชย์มีมาตรการดูแลราคายาโดยมี พ.ร.บ.ควบคุมราคาสินค้ากำกับ และหากเป็นยาที่จำเป็นจะเชิญผู้ประกอบการมาต่อรอง เพื่อให้ได้ราคาที่เป็นธรรม โดยยืนยันว่ามาตรการนี้จะใช้เพียงชั่วคราว
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวเพิ่มเติมว่า ขั้นตอนการใช้มาตรการพิเศษดังกล่าวจะใช้สำหรับการพิจาณาคำขอสิทธิบัตรค้าง 36,000 คำขอที่เป็นสิทธิบัตรนวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ใหม่ทุกด้าน เช่น ด้านเคมี, วิศวกรรม, ฟิสิกส์ , ไฟฟ้า รวมถึงสิทธิบัตรยา ซึ่งการพิจารณาจะให้ ความสำคัญลำดับแรกกับสิทธิบัตรที่ยื่นคำขอเกินกว่า 5 ปีตามกระบวนการ ผู้ที่ต้องการจะใช้มาตรการพิเศษนี้จะต้องแจ้งความจำนงโดยสมัครใจมาที่กรมทรัพย์สินทางปัญญาก่อนว่าต้องการจะขอใช้มาตรการนี้
ส่วนความกังวลเรื่องมีคำขอสิทธิบัตรยาที่ค้างการพิจารณา 3,000 ขอนั้น การรับจดสิทธิบัตรยาของกรมฯจะพิจารณารับจดเฉพาะยาใหม่ที่เป็นสิ่งประดิษฐ์ใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน และไม่ได้แปลว่าผู้มายื่นขอจดสิทธิบัตรยาจะเข้ามาขอใช้กระบวนการภายใต้มาตรการพิเศษทั้งหมด ส่วนยาเก่าจะไม่มีการรับจดสิทธิบัตร ซึ่งราคายาไม่ได้อยู่ในเงื่อนไขของการรับจดสิทธิบัตร ทั้งนี้ ในสิทธิบัตรยา 3,000 คำขอไม่ได้หมายความว่าจะเป็นการรับจดยาใหม่ 3,000 รายการ เพราะในยา 1 รายการ อาจจะมีคำขอจดสิทธิบัตรถึง 20 คำขอ ดังนั้น ขอยืนยันพร้อมให้ความร่วมมือสนับสนุนมติดังกล่าว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ประกอบการ.-สำนักข่าวไทย