กรุงเทพฯ 11 ม.ค. – ธปท.ชี้น้ำท่วมภาคใต้ กระทบสวนยางพารา และปาล์มน้ำมัน ผลผลิตลดลง ขณะที่แบงก์ ปิด ทำการชั่วคราว 4สาขา
นางสุรีรัตน์ ลัคนานิตย์ ผู้อำนวยการอาวุโส สำนักงานภาคใต้ ธปท. กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ในครั้งนี้ ส่งผลกระทบต่อทรัพย์สินและต่อครัวเรือนในวงกว้าง โดย ธปท. คงติดตามสถานการณ์น้ำท่วมและความเดือดร้อนของประชาชนอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ สถาบันการเงินที่ปิดดำเนินการในช่วงก่อน เริ่มกลับมาให้บริการตามปกติ สำหรับความเสียหายในภาพรวมคงต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง
ทั้งนี้ผลกระทบระยะสั้น ส่วนใหญ่เป็นผลกระทบในภาคเกษตร โดยเฉพาะยางพารา เนื่องจากชาวสวนยางไม่สามารถกรีดยางได้ ทั้งพื้นที่น้ำท่วมและพื้นที่ที่ฝนตกหนัก คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 75 ของพื้นที่สวนยางภาคใต้ทั้งหมด คาดว่าผลผลิตยางในเดือนมกราคมจะลดลงประมาณร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับเดือนมกราคมปีก่อน ปาล์มน้ำมัน ไม่สามารถเก็บผลผลิตปาล์มได้ และผลผลิตที่เก็บได้ก็มีอัตราการให้น้ำมันลดลง
ด้านการท่องเที่ยว ได้รับผลกระทบไม่มาก โดยเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี มีนักท่องเที่ยวยกเลิก booking ในช่วงนี้บ้าง ขณะที่การท่องเที่ยวในพื้นที่อันดามันซึ่งได้รับผลกระทบบ้างจากน้ำท่วมที่ จ.กระบี่ ขณะนี้สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว
นางวิเรขา สันตะพันธุ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกำกับธุรกิจสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยว่า ภาพรวมการปิดทำการชั่วคราวของสาขา ธนาคารพาณิชย์ ที่ภาค ใต้วันที่ 11 ม.ค. ล่าสุดมีสาขาที่ยังไม่เปิดทำการทั้งสิ้น 4 สาขา ประกอบด้วย ธนาคารกรุงไทย 2 สาขา ธนาคารกสิกรไทย 1 สาขา และ ธนาคารกรุงเทพ 1 สาขา โดยทั้งหมดอยู่ในพื้นที่ อ. บางสะพาน จ. ประจวบคีรีขันธ์ 3 แห่ง และ ตลาดเก่า อ.เมือง จ. กระบี่ 1 แห่ง ส่งผลให้ จำนวนสาขาที่ประสบภัยจากภัยน้ำท่วมครั้งนี้ทั้งสิ้น 117 สาขา และจำนวนธนาคารพาณิชย์ที่ปิดสาขา 11 แห่ง