ตรัง 18 ม.ค. – เกษตรกร ต.นาหมื่นศรี อ.นาโยง จ.ตรัง ปรับพื้นที่ที่เคยปลูกยางพารา หันมาปลูกน้อยหน่า พันธุ์เพชรปากช่อง กว่า 300 ต้น เก็บขายได้ปีละ 2-3 รุ่น สร้างรายได้หลักแสนบาทต่อปี
ที่บ้านสวนกรกานต์ หมู่ที่ 7 ต.นาหมื่นศรี อ.นาโยง จ.ตรัง ซึ่งเป็นสวนน้อยหน่า พันธุ์เพชรปากช่อง เนื้อที่ 3 ไร่ หรือกว่า 300 ต้น มีนายนาวี จันทร์กระจ่าง อายุ 50 ปี เป็นเจ้าของ กำลังเร่งตัดน้อยหน่ารอบสุดท้ายของรุ่น ซึ่งมีผลผลิตไม่ต่ำกว่า 500 กิโลกรัม ส่งให้กับลูกค้าที่มีการสั่งจองไว้ล่วงหน้า ในราคากิโลกรัมละ 80 บาท ซึ่งสวนน้อยหน่าแห่งนี้ แต่เดิมเป็นสวนยางพารา เกษตรกรได้ปรับเปลี่ยนมาปลูกน้อยหน่า เมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว เพราะเห็นว่าใน จ.ตรัง ยังไม่มีใครปลูก ประกอบกับน้อยหน่าเพชรปากช่อง ปลูกง่าย โตเร็ว ลูกใหญ่ เนื้อเยอะ เมล็ดเล็กลีบ หอม หวานกำลังดี ทนแล้ง แมลงศัตรูพืชน้อย และบังคับให้ติดผลนอกฤดูกาลได้ปีละ 2-3 รุ่น แต่ละรุ่นให้ผลผลิตไม่ต่ำกว่า 500-600 กิโลกรัม และได้ราคาดี
โดยเฉลี่ยลูกละประมาณ 7 ขีด ถึงกว่า 1 กิโลกรัม ใช้เวลาปลูกเพียง 1 ปีเศษ ก็จะเริ่มออกผล และจะให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นเมื่อต้นใหญ่ขึ้น และยังเป็นที่ต้องการของตลาด เนื่องจากมีคนปลูกน้อย แม้จะปิดสวน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ก็ยังส่งขายทางออนไลน์ จนผลิตไม่ทันต่อความต้องการของลูกค้า
สำหรับน้อยหน่า เป็นผลไม้ที่มีรสเย็น มีแคลเซียมช่วยในการบำรุงกระดูกและฟัน ไขมันต่ำ มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงผิวพรรณ เส้นผม และดวงตา มีวิตามินซีสูง จึงช่วยบรรเทาอาการปวดฟันและปวดเหงือกได้ ช่วยควบคุมความดันโลหิตสูง และอื่นๆ อีกมากมาย แต่ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ควรรับประทานแต่พอดี เนื่องจากน้อยหน่ามีน้ำตาลสูง และหากรับประทานมากเกินไป อาจเกิดภาวะอ้วนได้
ด้านนายนาวี จันทร์กระจ่าง เกษตรกรผู้ปลูกน้อยหน่า กล่าวว่า ที่กำลังเก็บอยู่นี้เป็นรอบสุดท้ายของรุ่น คาดว่าจะได้ผลผลิตไม่ต่ำกว่า 500 กิโลกรัม ราคาขายกิโลกรัมละ 80 บาท เป็นพันธุ์เพชรปากช่อง รสหวาน เนื้อแน่นกำลังดี ผลตอบรับดีมาก ส่วนลูกค้ามีทั้งใน จ.ตรัง และต่างจังหวัด แต่ละลูกมีน้ำหนักตั้งแต่ 7 ขีด ถึงกว่า 1 กิโลกรัม พอหมดจากแต่ละรุ่นก็จะตัดแต่ง ซึ่งทำได้ทุกฤดู ใช้เวลา 4-5 เดือน ถึงจะเริ่มเก็บผลผลิตได้อีก โดยมองว่า น้อยหน่าใน จ.ตรัง น่าปลูกมาก เพราะง่ายต่อการดูแลรักษา และภูมิประเทศเอื้ออำนวย โดยมีเกษตรกรมาดูงานหลายที่ จนกิ่งพันธุ์หมด ยอดจองเยอะ รอบหนึ่งได้ประมาณ 40,000-50,000 บาท ใครสนใจติดต่อได้ที่เฟซบุ๊กบ้านสวนกรกานต์ หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 063-5392475. – สำนักข่าวไทย