ประมูลแหล่งปิโตรเลียมล่าช้าเสี่ยงก๊าซขาดปี 64

กรุงเทพฯ  12 ม.ค. – กมธ.วิสามัญพิจารณา 2 พ.ร.บ.ปิโตรเลียมเลื่อนเวลาพิจารณารอบที่ 5 ด้านกระทรวงพลังงานเร่งทุกแผนรองรับ ด้านผู้ผลิตไม่มั่นใจต้องลดแผนลงทุน กรมเชื้อเพลิงฯ ให้ ปตท.ศึกษาขยายนำเข้าแอลเอ็นจีเทอร์มินอล 1 เป็น 15 ล้านตัน เหตุหวั่นก๊าซฯ ขาดแคลนกระทบการผลิตไฟฟ้าปี 2564 ย้ำประชาชนทำใจต้นทุนค่าไฟเพิ่ม


นายวีระศักดิ์ พึ่งรัศมี อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ยอมรับว่ามีความเป็นห่วงด้านความมั่นคงพลังงาน หากการเปิดประมูลแหล่งสัมปทานปิโตรเลียมที่จะหมดอายุทั้ง 2 คือ แหล่งเอราวัณ (สิ้นสุดสัมปทานปี 2565) และบงกช (สิ้นสุดอายุสัมปทานปี 2566) ล่าช้าออกไปอาจจะส่งผลกระทบต่อปริมาณความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติปี 2564 ซึ่งมีความต้องการใช้ประมาณ  5,000 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐาน หรือคลังรับแอลเอ็นจีที่นำเข้ากับปริมาณการผลิตก๊าซฯ ในประเทศอาจต่ำกว่าความต้องการใช้ก๊าซฯ จึงมอบหมายให้ ปตท.ไปพิจารณาศึกษาเรื่องการลงทุนขยายสถานีนำเข้าแอลเอ็นจีระยะที่ 1 (เทอร์มินอล 1) จากปัจจุบันได้รับอนุมัติก่อสร้างรองรับนำเข้ารวม 11.5 ล้านตัน/ปี ขยายไปเป็น 15 ล้านตัน/ปี ซึ่งโครงการนี้ได้รับอนุมัติทาง ปตท.ได้รับอนุมัติแผนการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ(อีเอชไอเอ) เรียบร้อยแล้ว โดยจะใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี อย่างไรก็ตาม แผนการก่อสร้างต้องรอให้กระทรวงพลังงานพิจารณาเห็นชอบก่อน

“หากต้องพึ่งพาก๊าซแอลเอ็นจีเพิ่มขึ้น ก็จะส่งผลต่อต้นทุนค่าไฟฟ้าให้เพิ่มขึ้น โดยจะเห็นได้ว่าขณะนี้ราคาแอลเอ็นจีตลาดจรขยับตามราคาน้ำมันมาเป็นกว่า 9 ดอลลาร์สหรัฐ/ล้านบีทียูแล้ว ในฐานะผู้ปฏิบัติและดูแลก๊าซฯ อยากให้การแก้ไขกฎหมายมีความชัดเจนโดยเร็ว” นายวีระศักดิ์ กล่าว


นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า  กรมฯ ได้เร่งจัดทำกฎหมายลูก 5 ฉบับ เพื่อรองรับร่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียมและภาษีเงินได้ปิโตรเลียมที่อยู่ระหว่างการพิจารณาคณะกรรมาธิการวิสามัญ (กมธ.) จะพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ปิโตรเลียม 2 ฉบับ คือ ร่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียม (ฉบับที่) พ.ศ….และร่าง พ.ร.บ.ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม (ฉบับที่) พ.ศ…โดยกฎหมายลูกจะเสร็จภายในเดือนมีนาคมนี้  โดยร่างกฎหมายลูกบางฉบับร่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว เช่น หลักเกณฑ์การคัดเลือกแปลงปิโตรเลียมใดให้เหมาะสมกับการเปิดประมูลในรูปแบบใด ทั้งรูปแบบการให้สัมปทาน  ระบบแบ่งปันผลผลิต (พีเอสซี) และระบบรับจ้างผลิต (เอสซี) ซึ่งจะดูทั้งปริมาณสำรองและรูปแบบที่จะจูงใจให้เอกชนยื่นประมูลแข่งขัน  โดยหลักเกณฑ์นี้จะครอบคลุมทั้งเปิดประมูลสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 และแหล่งสัมปทานที่จะหมดอายุทั้ง 2 แหล่ง

พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงฯ เตรียมแผนการณ์ไว้รองรับทุกกรณี ซึ่งขณะนี้รับทราบเบื้องต้นว่า กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียม ซึ่งมี พล.อ.สกนธ์ สัจจานิตย์ เป็นประธาน เตรียมเสนอที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ขยายระยะเวลาการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียมทั้ง 2 ฉบับ เป็นครั้งที่ 5 ออกไปอีก 30 วัน เสร็จสิ้นวันที่ 19 กุมภาพันธ์นี้ จากเดิมจะเสร็จสิ้นวันที่ 21 มกราคมนี้  โดยกระทรวงสั่งการให้กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติเร่งจัดทำรายละเอียดร่างกฎหมายลูก 5 ฉบับรองรับไว้ และเตรียมออกประกาศเชิญชวนให้เอกชนเข้าร่วมการประมูลแหล่งสัมปทาน  2 แหล่ง  ซึ่งจากการประเมินเบื้องต้น หากการดำเนินการออกประกาศเปิดประมูลมีความล่าช้าอาจจะทำให้กรอบการคัดเลือกผู้ชนะการประมูลที่จะเสร็จสิ้นเดือนกันยายนนี้ไม่เป็นไปตามแผนเดิม แต่คาดว่าจะเสร็จสิ้นได้ปลายปีนี้ ดังนั้น กระทรวงพลังงานจะรายงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.)ในการประชุมวันที่ 17 กุมภาพันธ์นี้ให้รับทราบถึงความล่าช้าดังกล่าว

“ทางผู้รับสัมปทานปิโตรเลียมทั้ง 2 แหล่งที่จะหมดอายุทั้งเชฟรอนและ บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (ปตท.สผ.) ได้สอบถาม เพื่อขอรับทราบกรอบระยะเวลาการเปิดประมูลที่ชัดเจน ซึ่งขอให้รอทาง สนช. อย่างไรก็ตาม ได้ยืนยันว่าหากกฎหมายมีผลบังคับใช้แล้วจะเปิดประมูลให้เร็วที่สุดไป อย่างไรก็ตามเมื่อยังไม่ชัดเจนทางเอกชนต้องปรับแผนลดวงเงินลงทุน ทำให้ปริมาณผลิตลดลงไปอีก ซึ่งทางกระทรวงฯ ก็ได้วางแผนรองรับการนำเข้าแอลเอ็นจีมารองรับไม่ให้กระทบการผลิตไฟฟ้า ” พล.อ.อนันตพร กล่าว


นายสมพร ว่องวุฒิพรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท.สผ.  กล่าวว่า จากการพิจารณาแก้ไข พ.ร.บ.ปิโตรเลียม และ พ.ร.บ.ภาษีปิโตรเลียมล่าช้า ก็กระทบต่อแผนลงทุน บริษัท ปรับลดแผนลงทุนในหลุมผลิตใหม่ ๆ ในแหล่งบงกช เพราะยังมีความเสี่ยงในการรอผลการประมูล แต่พยายามรักษาระดับการผลิตในหลุมผลิตเดิมให้มีอัตราการผลิตยาวนานมากที่สุด ซึ่งการลดการลงทุนในแหล่งบงกช จึงมีผลให้แผนลงทุน 5 ปี (2560-2564) ลดลงจากประมาณการณ์เดิม อย่างไรก็ตาม ยอดขายในช่วง 2-3 ปี ลดลงกว่าเดิมเล็กน้อย ส่วนความชัดเจนการเข้าซื้อกิจการปิโตรเลียมใน 2-3 แหล่ง ทั้งในไทย อ่าวไทย และประเทศเมียนมาร์นั้น ก็ขอยืนยันว่าจะมีความชัดเจนในปีนี้

ส่วนแหล่งออยด์แซนด์ในแคนนาดา ทางบริษัทปรับแผนลดต้นทุนการผลิตให้มากที่สุด และเชื่อมั่นว่าหลังนายโดนัล ทรัมป์ เข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ เรียบร้อยแล้ว จะส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น และน่าจะเป็นผลดีต่อราคาและยอดขายปิโตรเลียม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

วิเคราะห์การเมืองสนามใหญ่ หลังศึกเลือกตั้งนายก อบจ.

วิเคราะห์ผลการเลือกตั้งนายก อบจ. 4 สนามใหญ่ โดยเฉพาะอุดรธานี ที่สะท้อนถึงความนิยมในตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

“บิ๊กเต่า” ลั่นเตรียมมอบกุญแจมือเป็นของขวัญปีใหม่ให้คนดัง ส่งนอนห้องขัง

“บิ๊กเต่า” ลั่นเตรียมมอบ “กุญแจมือ” เป็นของขวัญปีใหม่ให้อินฟลูฯ นักร้อง คนดัง ส่งนอนห้องขังวีไอพี เผยปม “ฟิล์ม รัฐภูมิ” คาดมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง