กรุงเทพฯ 7ม.ค.- สบน.ปรับพอร์ตกู้เงินภาครัฐรับดอกเบี้ยขาขึ้น ปี 65 เน้นระยะยาว และอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น แฟนคลับพันธบัตรภาครัฐอาจซื้อได้น้อยลง ย้ำ พันธบัตรออมทรัพย์พิเศษ “รุ่นส่งความสุข” เอาใจผู้สูงวัย แนะซื้อผ่าน Mobile Bankingดีสุด
นางแพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กล่าวว่า จาก สถานการณ์ดอกเบี้ยทั่วโลกและไทยยขยับขึ้น ปี 2565จึงเป็นปีที่แห่งการปรับพอร์ตเงินกู้หนี้สาธารณะ โดยจะเน้นเป็นการกู้ระยะยาวจำหน่ายแก่สถาบันการเงิน และเป็นรูปอัตราดอกเบี้ยคงที่มากขึ้น จากที่ปัจจุบันหนี้ประเภทนี้มีประมาณร้อยละ 83ของพอร์ตหนี้สาธารณะ ซึ่งนับเป็นการปรับรูปแบบจากปีที่แล้ว ที่เน้นเป็นการออกพันธบัตรระยะสั้น รับภาวะเงินกู้ลอยตัว โดยการปรับพอร์ตก็เพื่อให้ทันสถานการณ์และลดภาระดอกเบี้ยของประเทศ โดย หารือร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยตลอด
ในขณะที่ ธปท.ระบุว่าปี 65วางแผนการออกพันธบัตร ธปท. โดยคำนึงถึงแผนการกู้เงินของภาครัฐเพื่อรองรับมาตรการฟื้นฟูผลกระทบ จากโควิด-19 เป็นสำคัญ โดย ธปท. และสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ได้ร่วมกันกำหนดแนวทางการออกพันธบัตรรัฐบาล ตั๋วเงินคลัง และพันธบัตร ธปท. เพื่อให้อุปทานรวมของพันธบัตรอยู่ในระดับที่เหมาะสม เช่น ลดวงเงินและความถี่ในการประมูลพันธบัตรประเภทอัตราดอกเบี้ยคงที่รุ่นอายุ 2 ปี เพื่อเสริมความต้องการลงทุนของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอายุ 3 ปี ถึง 5 ปี
นางแพตติเซีย กล่าวว่า แผนการกู้เงินปี 65 เป็นเงินกู้ใหม่ราว 1.3 ล้านล้านบาท (แยกเป็นเงินกู้ชดเชยงบประมาณขาดดุล 7 แสนล้านบาท ,เงินกู้ที่เหลือตาม พรก.กู้เงินฟื้นฟูโควิด-19 อีก 3 แสนล้านบาท ที่เหลือเป็นเงินกู้เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมตามมาตรา 22 ส่วนหนี้เดิมที่กู้แล้วจะมีราว 1.5 ล้านล้านบาท ซึ่งล่าสุด ที่ครม.ให้ก่อหนี้เพิ่มอีก 2 หมื่นล้านบาทนั้น เป็นเงินกู้เสริมสภาคล่องของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่กู้มาดูแลราคาดีเซลไม่เกิน 30 บาท/ลิตร ซึ่งถือว่าเป็นหนี้สาธารณะแต่ไม่นับเป็นการกู้ของภาครัฐแต่อย่างใด เพราะทางกองทุนน้ำมันฯจะเป็นผู้ดูแลการกู้และการใช้หนี้
นางแพตริเซีย กล่าวถึง การเริ่มจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษ “รุ่นส่งความสุข” เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับพี่น้องประชาชนเริ่ม 17 -31 ม.ค.นี้ วงเงิน 3 หมื่นล้านบาท ว่าเป็นรุ่นพิเศษที่จะเน้นจำหน่ายผู้สูงอายุซึ่งเป็นลูกค้าหลักของพันธบัตรรัฐบาล จึงจำหน่ายผ่านช่องทาง Counter Internet Banking และ Mobile Banking ของธนาคารตัวแทนจำหน่าย 4 แห่ง ได้แก่ ธ.กรุงเทพ กรุงไทย กสิกรไทย และไทยพาณิชย์ โดยไม่ได้จำหน่ายผ่านวอลเล็ต สบม. อย่างไรก็ตาม ในอนาคต ทาง สบน.ก็จะเน้นการใช้ วอลเล็ต สบม.เพิ่มขึ้น
“แนะนำผู้สูงอายุ ซื้อพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษ “รุ่นส่งความสุข”ผ่าน Mobile Bankingเป็นหลัก เพราะสะดวกและสามารถทำที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องไปสาขาธนาคาร แต่หากไปสาขาก็ขอให้เลือกสาขาที่คนน้อยๆ โดยการจำหน่ายวันที่ 17-18 ม.ค.เราขายเฉพาะผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป หากเหลือจึงนำไปจำหน่ายในช่วงถัดไป”นางแพตติเซียกล่าว
สำหรับพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษ รุ่นส่งความสุข เริ่มจำหน่ายวันที่ 17-31 มกราคม 2565 เวลา 8.30 น. รุ่นอายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันไดเฉลี่ย 1.90% ต่อปี (ปีที่ 1 อัตราดอกเบี้ย 1.60% ต่อปี ปีที่ 2 อัตราดอกเบี้ย 1.80% ต่อปี ปีที่ 3 อัตราดอกเบี้ย 2.30% ต่อปี) ลงทุนได้ตั้งแต่ 1,000 บาท แบ่งการจำหน่ายเป็น 3 ช่วง คือช่วงที่ 1 (วันที่ 17-18 มกราคม 2565) เปิดจำหน่ายให้กับบุคคลธรรมดาที่ถือสัญชาติไทย หรือมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทยที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป โดยซื้อได้ไม่เกิน 5 ล้านบาทต่อราย ช่วงที่ 2 (วันที่ 19-23 มกราคม 2565) เปิดจำหน่ายให้บุคคลธรรมดาที่ถือสัญชาติไทย หรือมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย (รวมอายุ 60 ปีขึ้นไป) โดยซื้อได้ไม่เกิน 5 ล้านบาทต่อราย และช่วงที่ 3 (วันที่ 24-31 มกราคม 2565) เปิดจำหน่ายให้บุคคลธรรมดาที่ถือสัญชาติไทย หรือมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย (รวมอายุ 60 ปีขึ้นไป) แบบไม่จำกัดวงเงินจำหน่าย. -สำนักข่าวไทย