กทม. 14 พ.ย. – “น็อต อัครณัฐ” อดีตพิธีกร กราบขอโทษทุกคนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมรับผิดชอบคู่กรณีทุกเรื่อง ขอโอกาสกลับตัว ยืนยันไม่ได้แจ้งความเอาผิดคู่กรณี
นายอัครณัฐ อริยฤทธิ์วิกุล หรือ น็อต อดีตพิธีกร เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน กรณีมีข่าวว่าแจ้งความดำเนินคดีกับนายกิตติศักดิ์ สิงโต หรือ บอย คู่กรณีที่ขับขี่รถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนรถยนต์มินิคูเปอร์ของนายอัครณัฐได้รับความเสียหาย ทำให้นายอัครณัฐบันดาลโทสะ ลงมือทำร้ายร่างกายนายกิตติศักดิ์ จนได้รับบาดเจ็บ และมีผู้ถ่ายคลิปเหตุการณ์และแชร์กันจนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมของการกระทำดังกล่าว โดยขอโทษทุกๆ คน ไม่ว่าจะเป็นคู่กรณี ต้นสังกัด โรงเรียน มหาวิทยาลัยที่เคยศึกษามา ขอยืนยันอีกครั้งว่า ไม่ได้แจ้งความเอาผิดนายกิตติศักดิ์ ข้อหาชนแล้วหนี ที่ผ่านมาเป็นการเข้าให้ปากคำในคดี ซึ่งคดีจะเป็นอย่างไร ให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และตนเองได้แจ้งกับตำรวจว่าไม่ขอเอาเรื่องใดๆ กับคู่กรณี ไม่ว่าจะเป็นการชดใช้ค่าเสียหาย และส่วนตัวขออโหสิกรรม ขอโอกาสกลับตัว และขอดูแลรับผิดชอบคู่กรณีทุกเรื่อง พร้อมขอขอบคุณทุกคำตำหนิจากทุกคน ขอเวลากลับตัวและเตรียมตัวหันหน้าปฏิบัติธรรม เพื่อให้จิตใจสงบ
ด้าน พ.ต.ท.อดิเรก พันธุ์ใย พนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา กล่าวว่า วันนี้ (14 พ.ย.) น็อตประสานขอเข้าพบ เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม น็อตยืนยันไม่ขอเอาเรื่องหรือเอาผิดผู้เสียหายทุกกรณี แต่ในส่วนคดี เมื่อคดีเกิดขึ้น น็อตได้เข้าให้ปากคำ หลังรถถูกจักรยานยนต์ของนายกิตติศักดิ์เฉี่ยวชน และคู่กรณีหลบหนี เมื่อพิจารณาแล้วมีความผิดเกิดขึ้นจริง ตำรวจจึงดำเนินคดีกับนายกิตติศักดิ์ ในข้อหาขับรถโดยประมาท ทำให้ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย และชนแล้วหลบหนี ไม่ให้การช่วยเหลือ โดยไม่สามารถถอนแจ้งความได้ ซึ่งนายกิตติศักดิ์ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการผัดฟ้องต่อศาลแขวงพระนครใต้ ส่วนคดีที่ 2 คือ นายกิตติศักดิ์แจ้งความเอาผิดนายอัครณัฐ ในข้อหาทำร้ายร่างกาย และบังคับข่มขืนใจผู้อื่น ทำให้เสียอิสรภาพ พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหานี้กับนายอัครณัฐแล้ว แต่นายอัครณัฐยังให้การปฏิเสธ ส่วนข้อหาแรกที่จะเปลี่ยนจากทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บเป็นได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งมีโทษสูงกว่านั้น ต้องรอผลการรักษานายกิตติศักดิ์อย่างเป็นทางการจากทางแพทย์ก่อน เบื้องต้นทราบว่า นายกิตติศักดิ์ต้องพักรักษาตัวนาน 30 วัน เข้าข่ายในข้อกล่าวหานี้ แต่พนักงานสอบสวนต้องได้รับผลการรักษาตัวอย่างเป็นทางการจากแพทย์ก่อน จึงจะนำมาประกอบสำนวนและเปลี่ยนข้อกล่าวหาได้.-สำนักข่าวไทย