ดึงทุกภาคส่วนร่วมช่วยลดอุบัติเหตุช่วงเทศกาล 

ทำเนียบรัฐบาล 29 ธ.ค.-โฆษกรัฐบาลเผยรัฐเปิดแผนบูรณาการป้องกัน – ลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลและวันหยุดปี 65 นายกฯ กำชับให้ทุกภาคส่วนร่วมช่วยลด คุมเข้มตั้งแต่วันนี้ถึง 4 ม.ค.


นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้าตามแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาล และช่วงวันหยุดพ.ศ. 2565 มุ่งเน้นการบริหารจัดการในลักษณะพื้นที่เป็นตัวตั้ง (Area Approach) เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนและอุบัติภัยอื่น ๆ โดยบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เคร่งครัด ควบคู่กับการสร้างจิตสำนึกและความรู้ด้านความปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนนและประชาชน ภายใต้ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ”

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะกรรมการนโยบายป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติเห็นชอบแผนบูรณาการและมาตรการการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน  5 มาตรการ  ประกอบด้วย 1. การบริหารจัดการ อาทิ  จัดตั้งศูนย์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565  2. ลดปัจจัยเสี่ยงด้านถนนและสภาพแวดล้อม  จัดทำถนนปลอดภัย  “1 ท้องถิ่น 1 ถนนปลอดภัย” ตรวจสอบและปรับปรุงสิ่งอันตรายข้างทาง (Roadside Hazards) อาทิ ระบบไฟฟ้าแสงสว่าง สัญญาณไฟจราจร เสาป้าย เป็นต้น แก้ไขปัญหาบริเวณจุดตัดทางรถไฟให้มีความปลอดภัยในการสัญจร 


“3. ลดปัจจัยเสี่ยงด้านยานพาหนะ ขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งด้วยรถบรรทุก หยุดประกอบกิจการหรือหลีกเลี่ยงการใช้รถบรรทุกในการประกอบกิจการในช่วงเทศกาลสงกรานต์ กวดขันผู้ใช้รถกระบะที่บรรทุกน้ำหนักเกิน และรถบรรทุกขนาดเล็กที่บรรทุกผู้โดยสารในลักษณะที่ไม่ปลอดภัย เข้มงวดกับรถตู้ส่วนบุคคลหรือรถเช่าให้ได้มาตรฐาน 4. ผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์อย่างเข้มข้น รณรงค์ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ด้านความปลอดภัยทางถนนในชุมชน/หมู่บ้าน  และ 5. ด้านการช่วยเหลือหลังเกิดอุบัติเหตุ  จัดเตรียมความพร้อมโรงพยาบาล แพทย์ พยาบาลและหน่วยบริการการแพทย์ฉุกเฉิน  เตรียมความพร้อมระบบช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบเหตุ ณ จุดเกิดเหตุของแต่ละพื้นที่ เป็นต้น” นายธนกร กล่าว

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับการดำเนินการในช่วงปีใหม่ 2565 จะแบ่งออกเป็น 1. ช่วงรณรงค์และประชาสัมพันธ์ (1 – 21 ธันวาคม 64) 2. ช่วงควบคุมเข้มข้น 7 วัน (29 ธันวาคม 64 – 4 มกราคม 65) และ 3.ช่วงหลังควบคุมเข้มข้น 7 วัน (5-11 มกราคม 65) ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีขอให้ทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน หน่วยทหารในพื้นที่และภาคประชาสังคม รวมทั้งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ชุมชน หมู่บ้าน อาสาสมัครต่าง ๆ และประชาชนมีส่วนร่วมลดปัจจัยเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุทางถนนทั้งจากคน ยานพาหนะ ถนน และสิ่งแวดล้อมให้เหลือน้อยที่สุด ควบคู่กับการดำเนินการตามมาตรการและแนวทางการดำเนินการเพื่อเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

voting ballot of Manchester, New Hampsher

เผยผลเอ็กซิตโพลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 2024                                               

รอยเตอร์เผยเอ็กซิตโพลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐว่า 2 ผู้สมัครที่เป็นคู่แข่งขันกันได้คะแนนเสียงจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งกลุ่มใดในสัดส่วนเท่าใด

รองเจ้าอาวาสวัดดัง เปย์สีกาไม่อั้น ลาสิกขาแล้ว

“รองเจ้าอาวาสวัดดัง” ลาสิกขาแล้วกลางดึก หลังปมฉาวเปย์สีกาไม่อั้น บอกไม่อยากให้เกิดความเสื่อมเสียต่อวัดและคณะสงฆ์

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

ข่าวแนะนำ

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

หาทางออก แม่ทำกรงขังลูกติดยาหวังรักษา

กรณีแม่วัย 64 ปี ที่บุรีรัมย์ สร้างห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมรับลูกชายวัย 42 ปี กำลังจะกลับจากการบำบัด แต่ถูกตีความว่าเป็นการละเมิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือ พร้อมหาทางออกในการบำบัดรักษาที่ถูกต้อง

จับ 2 หนุ่มญี่ปุ่นอุ้มรีดเงิน ทำร้ายร่างกาย บังคับกินอุจจาระ

สืบนครบาล จับชายชาวญี่ปุ่น 2 คน อุ้มเพื่อนร่วมชาติ ทำร้ายร่างกาย บังคับกินอุจจาระ เรียกเงิน 3 แสนบาท พบหนีคดีจากญี่ปุ่นมาขายกัญชาในประเทศไทย