กรุงเทพฯ 18 ม.ค. – กรมธนารักษ์รวบรวมที่ราชพัสดุที่มีศักยภาพ 15 แปลง นำออกประมูลให้เอกชนพัฒนาสร้างมูลค่า ราคากลางเริ่มต้นรวม 15 แปลง 1,500 ล้านบาท พร้อมนำ 2 แปลงมูลค่าเกินกว่า 1,000 ล้านบาท เสนอคณะกรรมการ PPP พิจารณาแผนลงทุน
นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า กรมธนารักษ์ปรับเปลี่ยนวิธีการประมูลที่ราชพัสดุ ด้วยการรวบรวมที่ดินมีศักยภาพและหมดภาระสิทธิครอบครองนำออกเปิดประมูลครั้งเดียวกัน เพื่อให้ผู้ลงทุนกลุ่มเป้าหมายผู้สนใจยื่นประมูล โดยมีราคากลางเบื้องต้นรวมทุกโครงการ 1,400-1,500 ล้านบาท เปิดจำหน่ายซองประมูลตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม 2560 – 23 กุมภาพันธ์ 2560 ณ สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ที่แปลงที่ราชพัสดุตั้งอยู่ และยื่นซองประมูลวันที่ 25 เมษายน 2560 ที่สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ที่แปลงที่ราชพัสดุที่สนใจจะเข้าร่วมการประมูลตั้งอยู่ กรมธนารักษ์จะใช้วิธีพิจารณาผู้ยื่นประมูลตั้งแต่คุณสมบัติผู้ยื่นประมูล ค่าธรรมเนียมแรกเข้า โครงการลงทุน โดยมีคะแนนแตกต่างกันตามศักยภาพในพื้นที่ คาดว่าภายในเดือนกรกฎาคม 2560 สามารถสรุปรายชื่อผู้ที่ผ่านการประมูลทั้งหมด 15 แปลง ปัจจุบันมีเอกชนให้ความสนใจกว่า 40 ราย
สำหรับที่ดินที่นำออกประมูลพร้อมกันทั่วประเทศ แบ่งเป็นแปลงใหญ่และแปลงเล็ก รวมทั้งสิ้น 15 แปลง 13 จังหวัด ประกอบด้วย แปลงขนาดใหญ่ 4 แปลง 3 จังหวัด คือ ที่ราชพัสดุแปลงวังค้างคาว กรุงเทพฯ แปลงเกาะกูด จังหวัดตราด แปลงที่อำเภอหัวหิน และแปลงบริเวณท่าเทียบเรือปอ จังหวัดภูเก็ต ส่วนขนาดแปลงเล็ก 11 แปลง 9 จังหวัด คือ เชียงราย แพร่ นครสวรรค์ อุทัยธานี ยโสธร อำนาจเจริญ สงขลา ตรัง และนครศรีธรรมราช รวมทั้งหมด 15 แปลง การประมูลเช่าที่ราชพัสดุครั้งนี้มอบสิทธิ์การเช่าตั้งแต่ 10-30 ปี ราคาค่าเช่าคำนวณราคาประเมินของแต่ละพื้นที่ โดยแปลงศักยภาพสำคัญนำออกประมูล เช่น แปลงที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 25 ไร่ มูลค่าโครงการ 687 ล้านบาท, ที่ดินแขวงคลองสาน กทม. 2.1 ไร่ ตาราวาละ 96,000 บาท มูลค่าที่ดิน 61 ล้านบาท , ที่ดินในตำบลทับเที่ยง อำเภอเมืองตรัง พื้นที่ 1 ไร่ ราคาประเมินปี 2559-2562 ตารางวาละ 75,000 บาท สัญญาเช่า 20 ปี
อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปีนี้กรมธนารักษ์เตรียมนำที่ราชพัสดุมูลค่าเกิน 1,000 ล้านบาท เสนอ คณะกรรมการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (PPP) โดยมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดยโครงการมูลค่าเกิน 1,000 ล้านบาท รวม 2 แปลง ประกอบด้วย บริเวณคลองสานตรงข้ามเอเชียทีค และบริเวณแหลมไม้แก่น จังหวัดสุราษฎ์ธานี โดยเตรียมเสนอคณะกรรมการPPP พิจารณาแผนลงทุน ยืนยันสามารถประกาศราคาประเมินที่ดินรอบใหม่แบบรายแปลงทั้งสิ้น 32 ล้านแปลงภายในสิ้นปี 2560 โดยราคาจะไม่เปลี่ยนแปลงจากปัจจุบันมาก และการเปิดประมูลครั้งนี้ใช้ราคาที่เช่าราชพัสดุใหม่ตามประกาศกรมธนารักษ์ เริ่มบังคับใช้ปีนี้ เมื่อเริ่มสัญญาใหม่จึงต้องใช้ราคาเช่าใหม่ตามประกาศเหมือนกับพื้นที่ทั้่วไป ส่วนผู้เช่าเดิมให้ปรับตัวเป็นเวลา 1 ปี โดยภาคเกษตรและที่อยู่อาศัยเจ้าของสิทธิ์ปรับตัว 3 ปี ก่อนเริ่มใช้ราคาใหม่เช่นเดียวกัน เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน. – สำนักข่าวไทย