กรุงเทพฯ 25 ม.ค. – กรมธนารักษ์แจงต่อสัญญาเอ็น.ซี.ซี. ระบุภาครัฐได้ประโยชน์เพิ่ม เตรียมเสนอคณะกรรมการ PPP พิจารณาแผนลงทุนพื้นที่ตรงข้ามเอเชียทีคกุมภาพันธ์นี้
นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า กรณีคณะรัฐมนตรีเห็นชอบการพัฒนาโครงการศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ หลังจากเลือกแนวทางแก้ไขสัญญากับบริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเมนท์ แอนด์ ดิเวลลอปเมนท์ เพื่อลงทุนก่อสร้างศูนย์ประชุมใหม่วงเงินลงทุน 6,000 ล้านบาท ระยะเวลาเช่าที่ราชพัสดุจากกรมธนารักษ์เป็นเวลา 50 ปี นับจากวันลงนามในสัญญา พื้นที่พัฒนา 180,000 ตารางเมตร ดังนั้น เพื่อแก้ปัญหาโครงการลงทุนที่ราชพัสดุที่ยังค้างคา จึงเจรจาเอกชนและรัฐให้ได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น รวมถึงหารือสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นเวลากว่า 2 ปี จึงเสนอให้ ครม.พิจารณา
สำหรับเหตุผลการต่อสัญญากับบริษัท เอ็น.ซี.ซี เนื่องจากเป็นคู่สัญญารายเดิมกับกรมธนารักษ์ และหากเลือกแนวทางยกเลิกสัญญาอาจถูกฟ้องร้องได้ โดยบริษัท เอ็น.ซี.ซี. ต้องดำเนินการระยะ 2 คือ สร้างเป็นโรงแรมช่วงปี 2534-3535 แต่ติดเรื่องผังเมืองใหม่ของ กทม. ทำให้บริษัทเอ็น.ซี.ซี. ไม่สามารถลงทุนต่อไปได้ ปัญหาดังกล่าวติดค้างเป็นเวลานานกว่า 20 ปี สัญญาใหม่ได้ประเมินผลตอบแทนตลอดอายุสัญญาวงเงิน 18,900 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสัญญาเดิม นับว่าภาครัฐได้ประโยชน์เพิ่ม
นอกจากนี้ กรมธนารักษ์อยู่ระหว่างการแก้ไขสัญญาที่ราชพัสดุบริเวณสถานีขนส่งหมอชิตกับบริษัท บางกอก เทอร์มินัล ปัจจุบันใช้เป็นที่จอดรถบริเวณรถไฟฟ้าบีทีเอสหมอชิต แต่ไม่สามารถเก็บค่าเช่าได้ เนื่องจากติดปัญหาสัญญารูปแบบเดิม ขณะนี้สรุปรูปแบบการก่อสร้างและปรับสัญญาร่วมทุนแล้ว อยู่ระหว่างการตรวจสอบเงื่อนไขสัญญาของสำนักงานอัยการสูงสุด ก่อนจะนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ในชั้นต่อไป โครงการภายใต้สัญญาใหม่นี้จะมีมูลค่าการลงทุนประมาณ 20,000 ล้านบาท บนเนื้อที่ 63 ไร่
สำหรับรูปแบบโครงการดังกล่าว รองรับความต้องการของทุกหน่วยงานที่ต้องการเข้ามาใช้พื้นที่ รวมทั้งจะเตรียมพื้นที่บางส่วนสำหรับการเชื่อมโยงโครงข่ายขนส่งมวลชนประเภทอื่นไว้ด้วย โครงการพัฒนาหมอชิตบนที่ราชพัสดุ มีรูปแบบทั้งอาคารศูนย์การค้าขนาดใหญ่ อาคารพาณิชย์ให้เช่า และคอนโดมิเนียมสำหรับอยู่อาศัย กรมธนารักษ์อยู่ระหว่างสรุปตัวเลขผลตอบแทน เบื้องต้นจะได้รับชดเชยค่าฐานราก 1,200 ล้านบาท และค่าธรรมเนียมรวมถึงค่าเช่าตลอดอายุสัญญา 500 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังเตรียมเสนอคณะกรรมการ PPP พิจารณาแผนพัฒนาการลงทุนภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ตรงข้ามเอเชียทีคริมแม่น้ำเจ้าพระยา จึงเป็นอีกทำเลหนึ่งในการพัฒนาที่ราชพัสดุของกรมธนารักษ์.-สำนักข่าวไทย