สนามหลวง 19 ม.ค. – พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมร่วมกับกองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง (กอร.รส.) จิตอาสา และมูลนิธิต่าง ๆ ที่นำอาหารมาแจกจ่ายให้กับประชาชนในเต็นท์บริเวณท้องสนามหลวง เพื่อหาแนวทางปรับระบบการให้บริการอาหารและน้ำดื่มบริเวณสนามหลวง โดยจะมีการย้ายเต็นท์ประกอบอาหารออกนอกพื้นที่สนามหลวงทั้งหมดภายในวันที่ 22 มกราคมนี้
ทั้งนี้ กระทรวงต่าง ๆ จะเข้ามาช่วยประกอบอาหารเลี้ยงประชาชนตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนกันยายน 2560 แต่ละเดือนจะมี 3 กระทรวงที่เข้ามารับผิดชอบ ซึ่งจะปรุงอาหารในพื้นที่ของแต่ละกระทรวงแล้วจึงนำมาส่งในจุดพักคอยบริเวณสนามหลวง โดยเน้นการทำอาหารเมนูทานง่ายและไม่ต้องมีเครื่องปรุง อาหารสำหรับชาวมุสลิมและเด็ก เช่น ข้าวไข่เจียว ข้าวไก่กระเทียม ใส่ในภาชนะที่เป็นจานหรือถ้วยกระดาษ เพื่อลดปริมาณขยะจากเศษอาหาร ซึ่งแต่ละกระทรวงจะจัดเจ้าหน้าที่ 150 คน เป็นทีมงานหลัก เพื่อช่วยบริการประชาชนตั้งแต่เวลา 04.00 – 20.00 น.
ส่วนการแจกอาหารในพื้นที่ จะแจกอาหารวันละ 50,000 ชุด แบ่งเป็น 3 เวลา ประกอบด้วย เวลา 06.00 น. , 11.00 น. และ 17.00 น. ด้านการบริการน้ำดื่ม จะมีการแจกวันละ 70,000 ขวด โดยน้ำดื่ม 1 ขวด ต่อ 1 คน และให้เก็บขวดน้ำดื่มติดตัวและเติมน้ำในจุดเติมน้ำ
ขณะที่การเตรียมความพร้อม เพื่อจัดกิจกรรม Big Cleaning Day บริเวณสนามหลวงและพื้นที่โดยรอบวันที่ 20 – 21 มกราคมนี้ตามที่สำนักพระราชวังแจ้งงดเข้ากราบสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เนื่องจากมีพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสตมวาร ครบรอบสวรรคต 100 วัน ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครจะร่วมกับอาสาสมัคร ทำความสะอาดพื้นที่บริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง สนามหลวง ทั้งพื้นผิวถนน ทางเท้า บำรุงรักษาต้นไม้ ท่อระบายน้ำ และทำความสะอาดบริเวณจุดพักคอยทั้งหมด โดยจะเริ่มล้างท่อระบายน้ำตั้งแต่กลางดึกของคืนนี้ (19 ม.ค.)
ส่วนวันที่ 20 มกราคมนี้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะพร้อมกันเวลา 07.30 น.บริเวณสนามหลวงฝั่งทิศใต้ จากนั้นจะปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน จิตอาสา และผู้เข้าร่วมกิจกรรมไปบริเวณจุดที่กำหนดไว้ตามพื้นที่ต่าง ๆ 14 โซน แบ่งเป็นพื้นที่ภายในสนามหลวง 7 โซน และพื้นที่รอบสนามหลวง 7 โซน ตั้งแต่ถนนราชดำเนินในจนถึงลานพระบรมรูปทรงม้า ผู้ที่สนใจเข้าร่วมสามารถโทรแจ้งความประสงค์ได้ที่สายด่วนกรุงเทพมหานคร 1555.-สำนักข่าวไทย