นครปฐม 11 ธ.ค.- เมื่อประมาณ 02.00 น. เมื่อคืนที่ผ่านมา เกิดเหตุนักโทษ 9 คน หลบหนีออกจากเรือนจำชั่วคราว มณฑลทหารบกที่ 11 ล่าสุดติดตามตัวได้แล้ว 4 คน
นักโทษ 9 คน ที่หลบหนีคือ นายวัชระ นะโมมั่น, นายเอกราช แป้งกลั่น, นายวีระเชษฐ์ เทพชู, นายนัถกร มาตรวังแสง, นายไพฑูรย์ มีคลองแบ่ง, นายบำรุง วงศ์สว่าง, นายพัชรวุฒิ มูลทองสงค์, นายจำรูญ คล้ายสุบรรณ และนายพานิช บัวศร ล่าสุดตอนนี้ติดตามตัวได้แล้ว 4 คนคือ นายเอกราช, นายนัถกร, นายไพฑูรย์ และนายวีระเชษฐ์
สำหรับนักโทษทั้ง 9 คนที่หลบนี เป็นผู้ต้องขังเข้าใหม่ มีความผิดฐานลักทรัพย์ และ พ.ร.บ.ยาเสพติด เป็นผู้ต้องหาที่ศาลตัดสินแล้ว ซึ่งถูกแยกกักตัวตามมาตรการการป้องกันโควิด-19 เพื่อรอผลตรวจโควิด-19 ส่วนการหลบหนีใช้ใบเลื่อยตัดเหล็ก ตัดซี่ลูกกรงห้องขังเรือนนอน 1/5 แล้วหลบหนีออกจากเรือนจำ ไปเดินอยู่ริมถนนในสภาพกางเกงตัวเดียว ก่อนจะเข้าไปในแคมป์ก่อสร้างซึ่งห่างจากเรือนจำไป 20 เมตร ไปขโมยเสื้อผ้า ผ้าขาวม้า มาคลุมร่างกายหลบหนีออกไป
ด้านพลตำรวจตรีบุญญฤทธิ์ รอดมา รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 7 เรียกประชุมทั้งตำรวจ ฝ่ายหาร และเจ้าหน้าที่จากเรือนจำ เร่งกระจายกำลังติดตามนักโทษที่ยังหลบหนี พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดทั้งในเรือนนอนและเส้นทางหลบหนี ขณะเดียวกันลงพื้นที่ติดตามที่บ้านพ่อแม่และญาติของนักโทษ พร้อมฝากเตือนประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง หากพบเบาะแสขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยเร็วที่สุด เนื่องจากเป็นบุคคลอันตรายต้องรีบจับกุมมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม บอกว่าแบ่งการทำงานออกเป็นสายกระจายกำลังออกติดตาม เชื่อว่าจะสามารถติดตามตัวกลับมาได้ทั้งหมด
ทางด้านผู้บัญชาการเรือนจำ บอกว่าทั้งหมดเป็นนักโทษในคดีทั่วไป ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ และไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีทางการเมือง อยู่ระหว่างรอผลการตรวจโควิด – 19 จึงนำมาฝากขังไว้ที่เรือนจำชั่วคราว มทบ.11 หากพ้นกำหนดเฝ้าระวัง ก็ต้องส่งเข้าเรือนจำเหมือนนักโทษทั่วไป ซึ่งจากการตรวจสอบ นักโทษหนีออกทางด้านหลัง หนีผ่านบึง ผ่านป่ากก ก่อนจะขึ้นถนน หนีเข้าไปในชุมชน
สำหรับนักโทษ 4 คน ที่จับกุมได้แล้ว มี 2 คน ที่ครอบครัวนำมามอบตัวคือ นายเอกราช, นายนัถกร เบื้องต้นให้การว่าสาเหตุที่หลบหนีเพราะพวกพี่ๆ นักโทษบอกว่าตนมีคดีค้างเก่าอยู่แล้ว หากติดคุกคงโดนอย่างน้อย 5-6 ปี รุ่นพี่นักโทษจึงชวนแหกคุก ซึ่งวางแผนกันประมาณ 2 สัปดาห์ ก่อนลงมือก่อเหตุ
ส่วนนายไพฑูรย์ เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ใกล้ๆ ที่เกิดเหตุ โดยมีการขโมยรถจักรยานของชาวบ้านปั่นหลบหนีไปหาญาติ แต่ไม่มีใครอยู่บ้าน จึงจอดรถไว้หน้าบ้าน และเข้าไปแอบในพงหญ้าข้างบ้าน พลเมืองดีเห็นรถจักรยาน ซึ่งตรงกับที่เจ้าของรถได้โพสต์ในเฟชบุ๊กเพื่อตามหารถที่หาย จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ และเจ้าหน้าที่ได้นำกำลังมาล้อมจับตัวได้ ตำรวจควบคุมตัวนายไพฑูรย์ ไปสอบปากคำที่ สภ.สามควายเผือก โดยขณะที่นายไพฑูรย์จะขึ้นรถ ได้ขอเจ้าหน้าที่ ก่อนจะโผเข้ากอดแฟนสาวแล้วร่ำไห้คิดถึงแฟน และเอ่ยปากขอให้แฟนไปเยี่ยมบ่อยๆ
ก่อนนี้ กองทัพบก ชี้แจง 9 นักโทษ แหกคุก มทบ.11 เป็นพลเรือน โดยระบุว่ากรมราชทัณฑ์ ขอใช้พื้นที่บางส่วนเรือนจำ มทบ.11 ทุ่งน้อย นครปฐม เป็นสถานที่กักตัวนักโทษใหม่ เพื่อคัดกรองโควิด-19 เมื่อครบกำหนดกักตัว จึงจะส่งเข้าเรือนจำราชทัณฑ์ ทั้งนี้การควบคุมมี จนท.ราชทัณฑ์ ควบคุมดูแลเองทั้งหมด
จับกุมได้รายที่ 4 นายวีระเชษฐ์ เทพชู อายุ 28 ปี มีความผิดฐาน ลักทรัพย์ จับกุมได้ที่บ้านลุง หมู่ 2 ตำบลงิ้วราย อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม อ้างตามเพื่อนออกมา แต่เมื่อคิดได้จึงไปหาลุงให้ประสานตำรวจมารับตัวกลับไปเรือนจำ
เรื่องนี้ทางกองทัพบกออกมาชี้แจงว่า ทางกรมราชทัณฑ์ขอใช้พื้นที่เรือนจำมณฑลทหารบกที่ 11 หรือ มทบ.11 จ.นครปฐม ในการกักตัวนักโทษพลเรือนใหม่ เพื่อคัดกรองเพื่อคัดกรองโควิด-19 ก่อนส่งเข้าเรือนจำราชทัณฑ์ โดยมีเจ้าหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์เป็นผู้ดูแลเองทั้งหมด ปัจจุบันมีนักโทษพลเรือนมากักตัวคัดกรองโควิด-19 จำนวน 276 คน
สำหรับพื้นที่เรือนจำ มทบ.11 จ.นครปฐม มีเนื้อที่ 54 ไร่ โดยใช้เป็นเรือนจำ เรือนขังมีทั้งหมด 4 เรือนขัง บนพื้นที่กว่า 20 ไร่ และแบ่งพื้นที่ 4 ไร่ ให้กรมราชทัณฑ์ใช้เป็นพื้นที่คุมตัวผู้ต้องขัง พลเรือนใหม่เพื่อกักตัวดูอาการ 21 วันก่อนส่งเข้าเรือนจำราชทัณฑ์ โดยแยกสัดส่วนกับเรือนขังของผู้ต้องขังทหารของ มทบ.11 อย่างชัดเจน.-สำนักข่าวไทย