สสว.เตรียมช่วยธุรกิจเอสเอ็มอีผ่านโครงการจ่ายคนละครึ่งต้นปีหน้า

กรุงเทพฯ 19 พ.ย.-สสว-กสอ ประสานความร่วมมือหาทางช่วยภาคธุรกิจเอสเอ็มอีไทยให้เดินหน้าทำธุรกิจต่อไปได้ โดยต้นปีหน้า สสว.จะใช้แนวสนับสนุนธุรกิจผ่านโครงการจ่ายคนละครึ่งมาใช้ ขณะที่ กสอ.เน้นภาครัฐซื้อสินค้าเอสเอ็มอีไทยมากขึ้น พร้อมให้ปรับตัวขายสินค้าผ่านออนไลน์


นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวปาฐกถาพิเศษ “นโยบายการส่งเสริมและสนับสนุนเอสเอ็มอีของภาครัฐ” ในงานมอบรางวัล “เซเว่น อีเลฟเว่น เอสเอ็มอียั่งยืน 2021” ผ่านระบบออนไลน์รูปแบบ HYBRID ว่า ทาง สสว.มีแผนงานที่จะช่วยเหลือภาคธุรกิจเอสเอ็มอีไทยให้มีความเข็มแข็งและเติบโตอย่างยั่งยืน ปัจจุบันภาคธุรกิจเอสเอ็มอีไทยสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 34.2 ของจีดีพี หรือมีจำนวนธุรกิจกว่า 3 ล้านรายเกิดการจ้างงานกว่า 12 ล้านคน และมีเป้าหมายหากจะใช้เอสเอ็มอีขับเคลื่อนจะเพิ่มมูลค่าการสร้างรายได้ให้เป็นร้อยละ 40-50 เทียบเท่ากับประเทศที่พัฒนาแล้วในปี 2570 ก็มีโอกาสเป็นไปได้ แต่ทุกฝ่ายทั้งภาครัฐและเอกชนจะต้องร่วมมือและส่งเสริมเอสเอ็มอีทุกกิจการไปในทิศทางเดียวกันเพื่อให้ภาคธุรกิจเอาเอ็มอีไทยมีความเข็มแข็งและยั่งยืน

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมาภาคธุรกิจเอสเอ็มอีไทยประสบปัญหาในหลายๆด้านที่เข้ามากระทบ ซึ่งในส่วนของ สสว.ได้จัดทำแผนงานการช่วยเหลือภาคธุรกิจเอสเอ็มอีในทุกกลุ่มมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแผนที่สนับสนุนอย่างดีของภาครัฐ คือ การปรับแนวทางเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างให้เน้นและสนใจสั่งซื้ออุปกรณ์ในด้านต่างๆที่จะใช้กับกระทรวงและกรมต่างๆให้จัดซื้อผ่านภาคธุรกิจเอสเอ็มอีไทยเป็นอันดับแรก รวมถึงในช่วงต้นปีหน้า สสว.มีโครงการจ่ายคนละครึ่งให้สำหรับภาคธุรกิจเอสเอ็มอี โดยในรายละเอียดของโครงการนี้ ธุรกิจเอสเอ็มอีสามารถเข้าไปตรวจสอบอละสอบถามถึงโครงดารดังกล่าวได้


นางสาวอริยาพร อำนรรฆสรเดช ผู้อำนวยการกองพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กล่าวว่า กสอ.มีแผนงานที่จะเน้นการช่วยเหลือภาคธุรกิจเอสเอ็มอีในทุกภาคธุรกิจมาต่อเนื่อง หลังจากปัญหาโควิดระบาดมาเกือบ 2 ปี โดยภาคธุรกิจเอสเอ็มอีของไทยได้รับผลกระทบไม่น้อย ซึ่ง กสอ.มีแนวทางช่วยเหลือที่จะเน้นให้ภาครัฐสั่งซื้อสินค้าในกลุ่มเอสเอ็มอีของไทยให้มากขึ้น พร้อมเร่งส่งเสริมสนับสนุนให้เอสเอ็มอีไทยปรับตัวไปขายผ่านตลาดสินค้าออนไลน์ที่กำลังเป็นที่นิยม พร้อมทั้งเป็นที่ปรึกษาให้กับเอสเอ็มอีที่จะปรับปรุงรูปแบบสินค้าให้เป็นที่ถูกใจและเข้าถึงผู้บริโภคในทุกกลุ่มให้มากขึ้น รวมทั้งยังได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชนรายใหญ่ เช่น บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ที่ดึงสินค้าในกลุ่มเอสเอ็มอีเข้าไปอยู่ภายในกลุ่มซีพีอีกด้วย ซึ่ง กสอ.พร้อมที่จะเข้าไปช่วยเหลือลดต้นทุนให้กับกลุ่มเอสเอ็มอีไทยให้สามารถสร้างความเข็มแข็งทางภาคธุรกิจได้ต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง