ไมแอมี 25 ม.ค.- สหรัฐเตรียมเนรเทศชาวเฮติกว่า 4,000 คน หลังจากประธานาธิบดีบารัค โอบามาประกาศเมื่อปลายปีก่อนยกเลิกสถานภาพผู้ได้รับความคุ้มครองชั่วคราว (ทีพีเอส) ให้พำนักอยู่ในสหรัฐหลังเกิดแผ่นดินไหวใหญ่เมื่อ 7 ปีก่อน
แผ่นดินไหวขนาด 7 เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2553 และแรงสั่นสะเทือนหลังแผ่นดินไหวอีกหลายสิบครั้ง ทำให้ชาวเฮติเสียชีวิต 100,000-160,000 คน เดือดร้อนร่วม 3 ล้านคน ปัจจุบันยังมีผู้อาศัยตามศูนย์พักพิงซอมซ่อราว 55,000 คน นายเจห์ จอห์นสัน รัฐมนตรีความมั่นคงมาตุภูมิในรัฐบาลโอบามากล่าวเมื่อวันที่ 22 กันยายนปีก่อนว่า สถานการณ์ในเฮติดีขึ้นมากแล้ว รัฐบาลสหรัฐจึงสามารถส่งกลับชาวเฮติได้สม่ำเสมอมากขึ้นเหมือนที่ปฏิบัติกับพลเรือนประเทศอื่น แต่หลังจากนั้นเฮอริเคนแมทธิวได้พัดถล่มเฮติในวันที่ 4 ตุลาคมด้วยความรุนแรงระดับ 4 คร่าชีวิตคนไปกว่า 500 คน ไร้ที่อยู่อาศัยจำนวนมากและเกิดอหิวาตกโรคระบาด รัฐบาลสหรัฐจึงชะลอการส่งกลับไปเป็นเดือนพฤศจิกายน
ด้านกลุ่มให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ผู้เข้าเมืองเผยว่า สถานภาพทีพีเอสจะหมดในเดือนกรกฎาคมนี้ แต่ได้รับการร้องเรียนว่ามีชาวเฮติเริ่มถูกส่งกลับไม่ต่ำกว่า 1,600 คนตั้งแต่เดือนตุลาคมปีก่อน การส่งกลับคนเหล่านี้ในเวลานี้ถือเป็นเรื่องผิด ไร้หัวใจ ไร้จริยธรรม และน่ารังเกียจ เพราะรู้ทั้งรู้ว่าคนในเฮติเองกำลังยากลำบากและรัฐบาลไม่สามารถดูแลได้ ข้อมูลจนถึงปี 2555 ระบุว่า มีชาวเฮติอาศัยอยู่ในสหรัฐประมาณ 600,000 คน ส่วนใหญ่อยู่ในรัฐฟลอริดา คิดเป็นร้อยละ 1.5 ของชาวต่างชาติทั้งหมดในสหรัฐ ชะตากรรมของพวกเขาฝากไว้กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่ประกาศจะเนรเทศชาวต่างชาติมากถึง 3 ล้านคนที่พำนักอยู่อย่างผิดกฎหมายและมีประวัติก่ออาชญากรรม.-สำนักข่าวไทย