กู้ร่างผู้เสียชีวิตเหตุคานถล่มพระราม 2 ครบแล้ว

สมุทรสาคร 30 พ.ย.- กู้ครบแล้ว! 6 ร่างผู้เสียชีวิตเหตุคานก่อสร้าง ถนนพระราม 2 พังถล่ม แนะหลีกเลี่ยงเส้นทางถนนพระราม 2 ขาออก ทุกช่องทาง


ความคืบเหน้า เหตุคานเหล็กก่อสร้างทางยกระดับ ถนนพระราม 2 พังถล่มเมื่อช่วงเช้ามืดวานนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่แขวงการทางสมุทรสาคร และกรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หลายภาคส่วน ร่วมกันค้นหาร่างผู้สูญหาย ซึ่งคาดว่าเสียชีวิต อยู่ในซากของชิ้นส่วนคานสะพาน

นายพรพิสุทธิ์ บุญศิริ ผู้ช่วยหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสาคร บอกว่าพบร่างผู้เสียชีวิต ซึ่งสูญหายรายสุดท้ายแล้ว ชื่อนายเพียว โกโก อายุ 18 ปี สัญชาติเมียนมา เจ้าหน้าที่ได้นำส่งโรงพยาบาลสมุทรสาคร เมื่อเวลา 06.15 น. ที่ผ่านมา


สรุปภาพรวม จำนวนผู้เสียชีวิต มี 6 ราย เป็นคนไทย 2 ราย และเมียนมา 4 ราย ส่วนผู้บาดเจ็บมี 9 ราย เป็นคนไทย 4 ราย และเมียนมา 5 รายในจำนวนนี้ ออกโรงพยาบาลแล้ว 3 คน คงเหลือรักษาตัวอยู่ 6 คน

ล่าสุด เมื่อเวลา 09.00 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้แทนจากบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุดังกล่าวอีกครั้ง เพื่อวางแนวทางการ จัดการจราจรและการคืนพื้นผิวจราจร เบื้องต้นพบว่าช่วงขาออกกรุงเทพ ยังไม่สามารถเคลียร์ซากอุปกรณ์ที่พังลงมาออกจากพื้นที่ได้ เจ้าหน้าที่แนะประชาชนใช้ทางเบี่ยงเอกชัย ก่อนตัดเข้าถนนพระราม 2 อีกครั้ง ส่วนขาเข้ากรุงเทพฯ ตั้งแต่ กม.21+600 ใช้ช่องทางคู่ขนานได้ 1 ช่องทาง จึงทำให้สภาพการจราจรยังคงติดขัดเหมือนเดิม ดังนั้นจึงมีการปรับแผนการจราจรเพื่อหาเส้นทางเบี่ยงเพิ่ม และที่สำคัญ ในระยะเร่งด่วนนี้ คือ การประชาสัมพันธ์ให้ทุกคนได้รับทราบถึงการหลีกเลี่ยงเส้นทางการจราจรบนถนนพระราม 2 ที่จะต้องผ่านจุดเกิดเหตุ อีกทั้งยังต้องมีการจัดกำลังตำรวจให้เพียงพอต่อการปฏิบัติงานในการอำนวยความสะดวกทางการจราจร

เร่งเครื่องย้ายเครนก่อสร้างที่เสียหาย ออกจากที่เกิดเหตุ


ส่วนเรื่องการนำวัสดุเกิดเหตุออกจากพื้นผิวจราจร เพื่อเปิดช่องทางให้รถวิ่งผ่านได้นั้น เบื้องต้นวิศวกรบริษัทฯ บอกว่า จะเริ่มจากฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ ก่อน โดยการนำเครนก่อสร้าง ที่อยู่ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ ซึ่งแม้จะยังคงอยู่ในสภาพที่เห็นว่าเป็นปกติ แต่ก็ได้รับผลกระทบจากเครนฝั่งที่ล้มลง ดังนั้นจึงต้องออกเป็นอันดับแรก โดยรอรถยกหนัก 500 ตัน เข้ามาหน้างานในวันจันทร์นี้ จากนั้นก็จะเข้าสู่การปฏิบัติงานยกเครนก่อสร้าง ด้านบนออก โดยต้องทำให้แล้วเสร็จใน 7 วัน ซึ่งเมื่อนำออกไปแล้ว ก็จะเปิดการจราจรในช่องทางด่วน (ช่องปกติ) ถนนพระราม 2 ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ ได้เป็นปกติ ส่วนทางฝั่งขาออกกรุงเทพฯ การเคลื่อนย้ายวัสดุที่หักถล่มลงมา ต้องใช้เวลานาน ตามระยะเวลาที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้ให้ข้อมูลไว้ แต่ทั้งนี้ก็เร่งดำเนินการให้เร็วกว่า 15 วัน เพื่อให้การจราจรทั้งสองฝั่งกลับมาเป็นปกติได้โดยเร็วที่สุด

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

กทม.ขยายระยะเวลา WFH ต่อเนื่องถึง 24 ม.ค.68

กทม.ขยายระยะเวลา WFH ต่อเนื่องจนถึง 24 ม.ค.68 เนื่องจากสถานการณ์ฝุ่นมีแนวโน้มสูงทั้งสัปดาห์ โรงเรียนสังกัด กทม. ผู้บริหารใช้ดุลยพินิจปิดโรงเรียนตามสถานการณ์ แจ้งปิดการเรียนแล้ว 21 แห่ง

ทรัมป์สาบานตน

VOA ส่งตรงจากสหรัฐ : คำมั่นของผู้นำ และเสียงจาก ปชช. เมื่อ ‘ทรัมป์’ หวนคืนทำเนียบขาว

พิธีปฏิญาณตนเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในปี 2025 มีขึ้นภายใต้เงื่อนไขและบรรยากาศที่แตกต่างไปจากหลายปีที่ผ่านมาในหลายรูปแบบ ท่ามกลางประชาชนที่หลั่งไหลมารับชมการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในครั้งนี้ คุณเยี่ยมยุทธ สุทธิฉายา ผู้สื่อข่าววีโอเอไทยนำความเคลื่อนไหวทั้งในอาคารรัฐสภาสหรัฐ และเสียงของประชาชนผู้มาร่วมงานมานำเสนอ

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ