แก้ รธน.เหลือสภาเดียว หยุดสืบทอดอำนาจ

รัฐสภา 16 พ.ย.-“พริษฐ์” แจงประชุมร่วมรัฐสภา ย้ำหลักการแก้ รธน.ฉบับประชาชน เปลี่ยนโครงสร้างให้เหลือสภาเดียว วางกลไกป้องกันรัฐประหาร สืบทอดอำนาจ เลิกยุทธศาสตร์ชาติ


การประชุมร่วมรัฐสภาที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุมพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ยกเลิกมาตรา 65 แก้ไขเพิ่มเติมหมวด 7 มาตรา 159 วรรคแรก เพิ่มมาตรา 193/1 มาตรา 193/2 แก้ไขเพิ่มเติมหมวด 11 หมวด 12 มาตรา 256 หมวด 16 ยกเลิกมาตรา 269 มาตรา 270 มาตรา 271 มาตรา 272 และมาตรา 279) ที่ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 135,247 คน เป็นผู้เสนอ

นายพริษฐ์ ชี้แจงว่า ประเทศไทยกำลังอยู่ในสถานะผู้ป่วยที่ประสบ 3 โรคร้ายแรง คือ 1.โรคเศรษฐกิจอ่อนแอ 2.โรคความเหลื่อมล้ำเรื้อรัง และ3.โรคประชาธิปไตยหลอกลวง ที่ผ่านมาหลายฝ่ายพยายามเสนอยาบรรเทาอาการ ไม่ว่าจะเป็นยาการปฏิรูประบบราชการ ยาการกระจายอำนาจ ก็ถูกปฏิเสธมาตลอด และพบว่าไวรัสที่ทำให้ประเทศไทยป่วยชื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หากกำจัดได้ ประเทศจะหายป่วยจากโรคทุกชนิด และกลับมาแข็งแรง แต่ไม่ใชว่าโรคจะหายไป เพราะยังมีระบอบประยุทธ์ที่ควบคุมอำนาจทุกอย่างเบ็ดเสร็จ


“กรอบกายสิทธิ์ที่ค้ำจุนระบอบประยุทธ์ คือรัฐธรรมนูญ 60 ที่เขียนเพื่อสืบทอดอำนาจให้ระบอบประยุทธ์เท่านั้น เขียนโดยความเห็นของคนไม่กี่คน ไม่ได้รับฟังความเห็นของคนในวงกว้าง แม้ว่ารัฐธรรมนูญ 60 จะผ่านประชามติเมื่อปี 59 แต่ก็ไม่ได้เป็นการจัดทำประชามติที่เสรีและเป็นธรรม แม้แต่คำถามพ่วงที่ทำให้เรามีส.ว.จากการแต่งตั้ง เพื่อให้มีอำนาจเลือกนายกฯ ก็ถูกเขียนให้ซับซ้อนและชี้นำ หากใครจะยกตัวเลขประชามติ 16 ล้านเสียง ผมอยากเตือนว่า 16 ล้านเสียง ที่ลงคะแนนในวันนั้นไม่ได้เห็นชอบกับรัฐธรรมนูญนี้ไปตลอดกาล และอย่าลืมว่ารัฐธรรมนูญที่ถูกทำประชามาติในวันนั้นก็ไม่ใช่ร่างเดียวกับรัฐธรรมนูญ 60 ที่ถูกประกาศใช้”  นายพริษฐ์ กล่าว

นายพริษฐ์ กล่าวว่า การเขียนรัฐธรรมนูญลักษณะนี้ไม่เพียงย้อนเข็มนาฬิกาประชาธิปไตย แต่ยังเป็นการผูกขาดอำนาจทางการเมืองไว้ฝ่ายเดียว เปรียบเหมือนนักมวยที่ต่อยพลาดแค่ไหน กรรมการก็ตัดสินใจให้ชนะทุกยก อาการแบบนี้ แม้เราจะจ่ายยาฆ่าไวรัสที่ชื่อระบอบประยุทธ์ออกไปได้ แต่ยังมีกลไกเครือข่ายที่ไม่มีประชาชนอยู่ในสมการ จึงต้องทำประเทศให้แข็งแรงด้วยการแก้รัฐธรรมนูญ เปรียบเหมือนการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 จากนั้นเข็มที่ 2 จะเป็นการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ การเสนอแก้ไขรายมาตราเหมือนการฉีดวัคซีนเข็มแรกให้ประเทศไทย แม้จะไม่สามารถแก้ทุกปัญหาของรัฐธรรมนูญ 60 ได้ แต่เมื่อปัญหาหลักคือการสืบทอดอำนาจ

“การสร้างภูมิคุ้มกันจะต้องร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับที่เสนอโดยประชาชนนี้เสนอยกเลิกสมาชิกวุฒิสภา เพราะขาดความชอบธรรมในการเป็นประชาธิปไตย ไม่ยึดโยงกับประชาชน การมีสภาเดี่ยวคือสภาผู้แทนราษฎรจะทำให้เกิดการยึดโยงกับระบอบประชาธิปไตย รวมทั้งเสนอยกเลิกยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนปฏิรูปประเทศ เพื่อลบล้างผลพวงการสืบทอดอำนาจรัฐประหาร นอกจากนี้ ยังเสนอให้นายกรัฐมนตรีต้องมีที่มาจาก ส.ส. การปรับโครงสร้างของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญใหม่ และเสนอให้ยกเลิกรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยแก้ไขให้การแก้รัฐธรรมนูญเป็นหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎรทั้ง 3 วาระ ซึ่งร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ถือเป็นการสร้างระบบการเมืองที่ไว้วางใจประชาชน” นายพริษฐ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย  


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

เลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ครึ่งวันเช้าคึกคัก

ภาพรวมการใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ครึ่งวันเช้าค่อนข้างคึกคัก มีประชาชนทยอยใช้สิทธิต่อเนื่อง ยังไม่มีรายงานการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง

ปชช.ตื่นตัวใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ท่ามกลางสายฝน

ชาวนครศรีธรรมราช ตื่นตัวออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ. ท่ามกลางสายฝน กกต.เผยภาพรวมครึ่งวันเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยังไม่มีรายงานการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง

ช้างป่ายกโขลงประชิดหมู่บ้าน ไล่ระทึกทั้งคืน

ไล่ระทึกกันทั้งคืน ช้างป่ายกโขลงบุกประชิดหมู่บ้านตลิ่งชัน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ออกหากินผลผลิตทางการเกษตรของชาวบ้าน