“พริษฐ์” รอหารือ 3 บุคคลสำคัญ ลุยทำประชามติ 2 ครั้งเพียงพอ

รัฐสภา 6 พ.ย.-“พริษฐ์” รอหารือ 3 บุคคลสำคัญ “ปธ.รัฐสภา-นายกฯ-ศาล รธน.” เดินหน้าทำประชามติ 2 ครั้งเพียงพอ ชี้หากไม่บรรจุร่างแก้ รธน. ให้มี ส.ส.ร.จัดทำ รธน.ใหม่ก่อน ก็ไม่สามารถมีรัฐธรรมนูญใหม่ได้ทันเลือกตั้งครั้งหน้า

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส. พรรคประชาชน ในฐานะกรรมาธิการร่วมพิจารณาร่าง พระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ กล่าวถึงการประชุม ร่วมพ.ร.บ.ประชามติฯ ว่า ว่าไม่ควรใช้เวลานานเพราะประเด็นที่เห็นต่างกันระหว่างสภาผู้แทนราษฎร กับวุฒิสภามีแค่ประเด็นเดียว คือ เรื่องใช้กติกาเสียงข้างมาก 1 ชั้นหรือ 2 ชั้น นอกจากนี้ หากรัฐบาลยึดแผนเดิม คือการทำประชามติ 3 ครั้ง และจะไม่ทำครั้งแรก จนกว่ามีการแก้พ.ร.บ.ประชามติเสร็จ ตนเกรงว่าจะมีความเป็นไปได้น้อยมาก ที่จะมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่ถูกจัดทำโดย สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ก่อนการเลือกตั้งครั้งถัดไป เพราะตามแผนเดิมมีความประสงค์ที่จะให้ประชาติครั้งแรกพร้อมกับการเลือกตั้งท้องถิ่นในช่วงต้นปี 2568 ซึ่งร่างพ.ร.บ.ประชามติยังไม่สรุปก็มีความเป็นไปได้น้อยมากว่ากรอบเวลาดังกล่าวจะเป็นจริงได้ หนทางเดียวที่จะเราจะมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ถูกจัดทำโดยส.ส.ร. ใช้บังคับก่อนการเลือกตั้งครั้งถัดไป คือการลดจำนวนประชามติจาก 3 ครั้งเหลือ 2 ครั้ง ซึ่งพรรคประชาชนก็ยืนยันมาโดยตลอดว่าหากยึดความจำเป็นทางกฎหมาย 2 ครั้งก็เพียงพอ แต่จะเป็นเช่นนั้นได้จะต้องหารือกับมี 3 บุคคลสำคัญ ซึ่งทางกรรมาธิการพัฒนาการเมืองสภาผู้แทนราษฎรได้ทำหนังสือเพื่อขอหารือแล้ว คือ 1. ประธานรัฐสภานายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ที่ได้มีการตอบกลับมา ให้เข้าหารือในวันที่ 27 พฤศจิกายนนี้ เพราะความจำเป็นในการเข้าพบประธานรัฐสภาเพื่อชี้แจง ถึงกระบวนการการบรรจุ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มีเนื้อหาสาระเกี่ยวกับการ มีส.ส.ร.ในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งทางพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชนได้ยื่นไปตั้งแต่ต้นปี แต่ประธานรัฐสภาไม่บรรจุในระเบียบวาระ เพราะกังวลว่าจะขัดกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ดังนั้นจึงหวังว่าการหารือในช่วงปลายเดือนนี้ จะเป็นการคลายข้อกังวลให้กับประธานรัฐสภาว่า การบรรจุร่างดังกล่าวในระเบียบวาระไม่ขัดรัฐธรรมนูญ หากดูคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญประกอบด้วยก็จะเห็นภาพชัดมากกว่านี้ จึงหวังว่าประธานรัฐสภาจะทบทวนและบรรจุร่างดังกล่าว


นายพริษฐ์ กล่าวว่าบุคคลที่ 2 คือ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าฝ่ายรัฐบาล หากประธานรัฐสภาบรรจุเข้าระเบียบวาระการประชุมร่างดังกล่าวจะผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับการลงมติความเห็นชอบของสส.แต่ละพรรคและสว.จึงอยากเข้าหารือกับนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลเพื่อพยายามที่จะเชิญชวนให้ทุกพรรคการเมืองในซีกรัฐบาลเห็นตรงกันถึงแนวทางการทำประชามติ 2 ครั้ง และ พิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เกี่ยวกับการ มีส.ส.ร.จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และขอความร่วมมือสส.ทุกพรรคการเมืองโน้มน้าว ให้สว.ให้ความเห็นชอบด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งเมื่อวานได้ทราบด้วยวาจาจากคำสัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรีที่ยินดีให้เราเข้าไปพบ ซึ่งหนังสือขอเข้าพบได้ออกไปเมื่อวันศุกร์ ที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา และอยู่ในขั้นตอนของสำนักเลขานายกรัฐมนตรีแล้ว

นายพริษฐ์ กล่าวถึงบุคคลสุดท้ายที่อยากหารือคือ ตัวแทนจากศาลรัฐธรรมนูญ แม้ตนเองจะยืนยันว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้บอกว่าต้องทำประชามติ 3 ครั้ง แต่เพื่อให้เกิดความชัดเจนของทุกฝ่าย ก็เป็นประโยชน์อย่างยิ่งหากศาลรัฐธรรมนูญจะมาขยายความเพิ่มเติมว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ หมายถึงขั้นตอนอย่างไร เพราะก่อนหน้านี้ที่สภาผู้แทนราษฎรได้ส่งหนังสือไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยเรื่องนี้อีกครั้ง แต่ศาลไม่รับไว้ วินิจฉัยโดยบอกว่าคำวินิจฉัยก่อนหน้านี้ชัดเจนแล้ว ดังนั้นหากมีตัวแทนของศาลรัฐธรรมนูญมาขยายความเรื่องนี้ก็จะเป็นประโยชน์ให้ทุกฝ่ายสบายใจในการเดินหน้าทำประชามติ 2 ครั้ง


เมื่อถามว่าเรื่องแก้รัฐธรรมนูญดูเหมือนน.ส.แพทองธารกังวลเรื่องถูกฟ้อง นายพริษฐ์ กล่าวยืนยันว่าการขอเข้าพบ ประธานรัฐสภา นายกฯ และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะปิดช่องโหว่ และทำให้นายกฯ คลายกังวลได้

นายพริษฐ์ หวังว่าทั้ง 3 บุคคลที่คณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองสภาผู้แทนราษฎรขอหารือจะสำเร็จได้ภายในเดือนนี้ ส่วนกรณีที่ในการประชุมครั้งแรกของกรรมาธิการร่วม ดูเหมือนเสียงสส.จะแพ้โหวตฝั่งสว.นั้น นายพริษฐ์ กล่าวว่า ถ้าดูผลการลงมติ เลือกประธานในที่ประชุม ตัวแทนจากทางวุฒิสภาได้คะแนนมากกว่า จำนวนสว. ที่เข้าประชุมในวันนั้นดังนั้นหมายความว่า คงมีกรรมาธิการสัดส่วนสภาผู้แทนราษฎรที่ไปลงมติให้กับทางซีกสว. แต่ไม่สามารถรู้ได้ว่าเป็นใครเพราะเป็นการลงมติแบบลับ

ส่วนตัวแทนฝั่งสส.ของพรรคภูมิใจไทย มีแนวโน้มว่าจะเห็นด้วยกับการทำ ประชามติ 2 ชั้น ซึ่งเป็นความเห็นเดียวกับทางฝั่งวุฒิสภานั้น นายพริษฐ์กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการคุยในรายละเอียดลงลึกในเนื้อหาแต่ถ้าวิเคราะห์จากการลงมติในห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎรก็จะเห็นว่า สส.ทุกพรรคมีการลงมติ ยืนยันร่างของสส. มีเพียงพรรคเดียวที่งดออกเสียง คือพรรคภูมิใจไทยจึงพอจะอนุมานได้ว่าหากจะมีพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งจะเห็นด้วยกับสว. ก็อาจจะเป็นพรรคภูมิใจไทยแต่จะเป็นเช่นนั้นหรือไม่ก็ต้องพูดคุยกันในชั้นกรรมาธิการ ซึ่งในวันนี้คงจะได้รับฟังความเห็นจากทุกฝ่ายเพิ่มมากขึ้น ตนเองในฐานะกรรมาธิการก็ไปย้อนฟังการอภิปรายของสว.และเชื่อว่าจะสามารถตอบข้อกังวล ของทางฝั่งสว.ได้


ทั้งนี้ หากกรรมาธิการร่วมได้ข้อสรุป ที่สภาผู้แทนราษฎรไม่เห็นชอบ สภาผู้แทนราษฎรก็สามารถยืนยันร่างของสภาผู้แทนราษฎรได้ เพียงแต่จะต้องบวกเวลาเพิ่มอีก 6 เดือนและหลายคนก็กังวลจะกระทบกับไทม์ไลน์ ในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่ข้อกังวลเหล่านี้จะหายไป หากเราหันไปใช้กระบวนการที่มีการทำประชามติ 2 ครั้ง ซึ่งใน 6 เดือนตรงนี้จะไม่ส่งผลกระทบกับไทม์ไลน์ดังกล่าว เพราะขั้นตอนแรก ไม่ใช่การจัดทำประชามติเลยแต่เป็นการที่รัฐสภาพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับส.ส.ร. ซึ่งกว่าที่รัฐสภาจะพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับ ส.ส.ร.สำเร็จ ข้อสรุปเรื่องพร.บ.ประชามติก็เรียบร้อยแล้ว และ การทำประชามติก็จะไม่ล่าช้าออกไป

ดังนั้น การที่เราหันมาใช้แผนการทำประชามติ 2 ครั้ง ดูน่าจะเป็นทางออกที่ทำให้เราได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่บังคับใช้ก่อนการเลือกตั้งมากที่สุดและรัฐบาลสามารถที่จะรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนได้

“ไม่ได้บอกว่าไม่ให้ความสำคัญกับการประชุมกมธ.ร่วมพ.ร.บ.ประชามติฯ ทำเต็มที่อยู่แล้วแต่จะบอกว่าถ้าเราอยากจะหาช่องทางที่ทำให้เราไม่ต้องมากังวลว่า กระบวนการในการหาข้อสรุปเรื่องพรบประชามติจะใช้เวลาเท่าไหร่คือหันไปใช้แผนการทำประชามติ 2 ครั้งก็จะทำให้เราไม่เจออุปสรรคและไม่เป็นอุปสรรคต่อแผน” นายพริษฐ์กล่าว

ส่วนการไม่บรรจุระเบียบวาระของนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ก่อนหน้านี้นั้น เหมือนเป็นเครื่องยืนยันว่า ประธานรัฐสภาทำถูกต้องแล้ว นายพริษฐ์ กล่าวว่าไม่เคยมีใครวินิจฉัย ว่าการบรรจุหรือไม่บรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระถูกต้องหรือไม่ถูกต้องแต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยออกมา ว่ารัฐสภามีอำนาจในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่แต่จะต้องมีการทำประชามติ 1 ครั้งก่อนและหลังแต่สิ่งที่แต่ละฝ่าย ตีความกันการทำประชามติ 1 ครั้งก่อนคือก่อนอะไร ซึ่งถ้าเป็นในมุมมองของตนและพรรคเพื่อไทย คือก่อนที่จะมีส.ส.ร.จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่ถ้า เป็นในมุมมองของที่ปรึกษาของประธานสภาไปตีความว่า 1 ครั้งก่อน คือก่อนที่เสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขใดๆ เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาตั้งแต่วาระ 1 จึงทำให้จำนวนการทำประชามติเพิ่มขึ้นอีก 1 ครั้ง นี่คือข้อแตกต่าง ของการตีความคำวินิจฉัยของสารรัฐธรรมนูญ แต่ถ้าไปดูความเห็นของตุลาการแต่ละคน ส่วนใหญ่เขียนชัดว่าประชามติ 2 ครั้งพอ ก็หวังว่าข้อมูลตรงนี้จะเอากลับมาขยายความละเอียดมากขึ้นและหารือกับประธานสภาเพื่อเห็นว่า การบรรจุร่างดังกล่าวไม่ได้ขัดกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ

แต่ทั้งนี้หากมีการหารือแล้วแต่ยังไม่บรรจุร่าง แก้ไขรัฐธรรมนูญอีก ตนมองว่าเราคุยด้วยเหตุและผลทางพรรคแกนนำฝ่ายค้านพรรคแกนนำรัฐบาลก็เห็นตรงกันในเรื่องนี้มาโดยตลอดว่าประชามติ 2 ครั้งเพียงพอแล้ว จึงคิดว่าฉันทามติของทั้งพรรคแกนนำฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลจะชี้ให้ประธานได้เห็น.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

จับตาเวทีหารือปราบสแกมเมอร์

15 ก.ย. – พรุ่งนี้ (16 ก.ย.) ต้องเกาะติดการประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา วางแนวทางปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสแกมเมอร์ ที่ จ.สระแก้ว ต่อยอดการประชุม GBC ที่เกาะกง เมื่อ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี

เชียงใหม่ 15 ก.ย. – แม่ทัพภาค 2 บรรยายพิเศษที่เชียงใหม่ ปลุกพลังรักชาติของคนไทย ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี พร้อมให้ข้อมูลแนวหน้าและคำแนะนำกับรัฐบาล ช่วงบ่ายวันนี้ (15 ก.ย.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อม พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ร่วมบรรยายพิเศษ บอกเล่า “เรื่องจริงจากชายแดน” ที่หอประชุมทีปังกรรัศมีโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ศูนย์แม่ริม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ มีนักเรียน นักศึกษา ประชาชนชาวเชียงใหม่ และนักศึกษาวิชาทหาร กว่า 2,000 คน รอให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยแม่ทัพภาคที่ 2 ได้พูดคุยกับคุณยายที่มารอต้อนรับ พร้อมสวมกอดคุณยายอย่างเป็นกันเอง และยังมอบลายเซ็นลงบนรูปถ่ายของตนที่คุณยายเตรียมมาด้วย พล.ท.บุญสิน ได้กล่าวสดุดีเหล่าทหารกล้าที่เสียสละเพื่อแผ่นดินไทย แสดงความเสียใจต่อประชาชนผู้สูญเสีย พร้อมประณามการกระทำของทหารกัมพูชาที่โจมตีเข้ามาด้วยอาวุธหนักโดยไม่เลือกเป้าหมาย พร้อมเน้นย้ำกับน้องๆ เยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มาร่วมฟังบรรยายในวันนี้ว่าขอให้ยึดมั่นใน 3 สถาบันหลักของชาติ มีความรักชาติหวงแหนในผืนแผนดินไทย จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และช่วยกันทำนุบำรุงศาสนา ร่วมแรงร่วมใจสามัคคีกันเป็นพลังให้ประเทศไทยก้าวผ่านหลากหลายความท้าทายในสถานการณ์ปัจจุบันไปให้ได้ ส่วนการเปิดด่านชายแดน […]

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้

สภาอุตสาหกรรมฯ 15 ก.ย.-“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้ ปัดตอบใครขาดคุณสมบัติบ้าง แต่ยืนยันนิ่งและครบแล้ว เผยหลังถวายสัตย์ฯ พร้อมแถลงนโยบายต่อสภาทันที เพื่อเดินหน้าทำงานโดยเร็ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าในการเตรียมร่างคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภา จำเป็นจะต้องเชิญพรรคร่วมรัฐบาลหารือด้วยหรือไม่ ว่า ตอนนี้ได้มีการยกร่างคำแถลงขึ้นมาแล้ว และได้ส่งเนื้อหาในส่วนของกระทรวงที่แต่ละคนรับผิดชอบ ให้พรรคร่วมรัฐบาลพิจารณา เพื่อนำไปสู่การแก้ไขเพิ่มเติม หรือตัดอะไรที่อาจจะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงนั้นๆ เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับเขามากที่สุด จะได้เข้ามาทำงานได้ ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า สไตล์คนละพรรคแต่พวกเดียวกันใช่หรือไม่ นายอนุทิน หัวเราะ แต่ไม่ได้ตอบคำถาม เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบประวัติของคณะรัฐมนตรี ขณะนี้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้รายงานกลับมาแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ใกล้แล้ว เรียกได้ว่ารายชื่อ 100% แล้ว เหลือเพียงการตรวจสอบประวัติ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติก่อนนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย โดยยืนยันว่าจะต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายภายในสัปดาห์นี้ ส่วนขั้นตอนการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา นายอนุทิน กล่าวว่า เมื่อนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายแล้วก็สุดแล้วแต่ท่าน แต่ทันทีที่โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมลงมาก็จะต้องรอการเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ จากนั้นก็จะเร่งแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ถึงจะสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมร่างแถลงนโยบายต่อสภาไว้แล้ว ทันทีเมื่อพร้อมก็สามารถให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรนัดหมายวันประชุมได้ทันที ขณะเดียวกัน นายอนุทิน ยังยืนยันด้วยว่า ขณะนี้รายชื่อคณะรัฐมนตรีครบและนิ่งแล้ว ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า […]