เชียงใหม่ 15 พ.ย.- เร่งขยายผลจับกุมนายทุนและขบวนการข้ามชาติ คดีจับหญิงวัย 25 ปี หลอกคนไทยไปทำงานร้านอาหารในประเทศเพื่อนบ้าน แต่บังคับกักขังให้ทำงานกับแก๊งชาวต่างชาติ เพื่อหลอกลวงคนไทยทางออนไลน์
เมื่อวานนี้ (14 พ.ย.) พลตำรวจโท ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาที่ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัวและป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ ตำรวจภูธรภาค 5 จ.เชียงใหม่ ติดตามความคืบหน้าคดี จับหญิงวัย 25 ปี ที่มีพฤติกรรมหลอกลวงคนไทยไปทำงานร้านอาหาร ที่ประเทศลาว แต่กลับบังคับกักขังอยู่ในอาคารสูง 21 ชั้นในย่านคิงส์โรมัน คาสิโน ในประเทศลาว และบังคับให้ทำงานกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพื่อหลอกลวงคนไทย ร่วมลงทุนเงินตราต่างประเทศ ทั้งนี้พบว่ามีความเชื่อมโยงกัน กับเครือข่ายทั้งในประเทศลาว และเมียนมา ขอเวลาเจ้าหน้าที่ในการทำงาน และต้องประสานสำนักงานอัยการทำคดีนอกราชอาณาจักรด้วย และรายงานให้กับสำนักงานสำรวจแห่งชาติ ว่ามีเครือข่ายไหนบ้างที่เข้าข่ายการค้ามนุษย์ ซึ่งมีผลต่อการจัดอันดับของประเทศไทย เกี่ยวกับการค้ามนุษย์ ในประชาคมโลก
พลตำรวจโท ต่อศักดิ์ ยังบอกว่าที่ผ่านมาตนเองยังเคยถูกแก๊งคลอเซ็นเตอร์ โทรศัพท์เข้ามาหลอกลวง แต่ตนเองได้หลอกล่อ ล้วงเอาข้อมูล ทำให้คนร้ายไหวตัวก่อนและวางสายไป
สำหรับผู้ต้องหา หญิงวัย 25 ปี ถูกเจ้าหน้าที่ศูนย์พิทักษ์เด็กสตรีครอบครัว และป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ ตำรวจภูธรภาค 5 จับกุม เมื่อวันที่ 13 พ.ย. หลังล่อลวงคนไทยไปทำงานร้านอาหาร และเด็กเสิร์ฟ ในประเทศลาว โดยจะประกาศรับสมัครทางเฟซบุ๊ก เมื่อเหยื่อตายใจจะให้เหยื่อเดินทางออกนอกประเทศแบบผิดกฎหมาย นั่งเรือข้ามแม่น้ำโขงจากจังหวัดเชียงราย ไปยังแขวงบ่อแก้ว ประเทศลาว เมื่อไปถึงด้วยการแต่กลับไม่ได้ทำงานตามที่รับสมัคร กลับบังคับ ยึดหนังสือเดินทาง และไม่สามารถออกไปไหนได้ ถูกข่มขู่ให้ไปทำงาน เป็นแก๊งสแกมเมอร์ พักอยู่ในอาคารตึก 21 ชั้น ย่านบ่อนกาสิโน คิงโรมันส์ แขวงบ่อแก้ว ประเทศลาว ให้ทำหน้าที่หลอกลวงคนไทย ร่วมลงทุนเงินตราต่างประเทศและบิทคอยน์ และหากหลอกสำเร็จได้เงินมา ก็จะโอนเงินเข้าบัญชีเครือข่าย จำนวนหลายล้านบาท และยกเลิกการลงทุน ไม่สามารถติดต่อได้ มีคนไทยที่ถูกล่อลวงไปมีจำนวนมาก จนเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลืออกมาได้ และขยายผลจับกุมนายหน้าคนไทย โดยมีนายทุนเป็นชาวจีน.-สำนักข่าวไทย