ทำเนียบฯ 27ม.ค.-รองนายกรัฐมนตรี ระบุระเบียบราชการ การลักทรัพย์ ไม่ถือเป็นความผิดวินัยร้ายแรง เว้นแต่ทำให้ภาพลักษณ์ประเทศเสียหาย โทษมีตั้งแต่ปลดออกและไล่ออก สุดท้ายขึ้นอยู่ที่คณะกรรมการตรวจสอบ ขออย่าซ้ำเติมรองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เพราะยังไม่ทราบสาเหตุที่เกิดขึ้น
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีข้าราชการระดับสูง กระทรวงพาณิชย์ ถูกตำรวจเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น จับกุมหลังก่อเหตุขโมยภาพวาดในโรงแรม ว่า แม้ทางญี่ปุ่นจะไม่เอาผิด และเสียเพียงค่าปรับนั้น แต่ตามระเบียบข้าราชการพลเรือนจะต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนความผิดทางวินัย ซึ่งตามระเบียบราชการ การลักทรัพย์ไม่ถือว่าผิดวินัยร้ายแรง แต่การลักทรัพย์ที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ ถือเป็นวินัยร้ายแรง ซึ่งมีโทษ ตั้งแต่ปลดออกและไล่ออก ซึ่งหากถูกไล่ออก จะไม่ได้รับเงินบำนาญ แต่หากพบว่าเป็นการกระทำความผิดเพราะอาการป่วย อาจต้องไปพิจารณาตามระเบียบการให้ออกจากราชการกรณีเจ็บป่วย
“ปกติการลักทรัพย์ ไม่ใช่ความผิดทางวินัยร้ายแรง แต่กรณีที่เป็นข่าวโด่งดังและสร้างความเสียชื่อ หรือกระทบต่อส่วนรวม ก็ต้องมีการสอบสวน แต่ผิดไม่ผิดต้องพิจารณาตามข้อเท็จจริง พร้อมยืนยันให้ความเป็นธรรม อย่างไรก็ตาม เรื่องอาการป่วยนั้นต้องพิจารณาต่อไป แต่จะผิดวินัยร้ายแรงไหมอยู่ที่คณะกรรมการตรวจสอบและเป็นอำนาจของผู้บังคับบัญชา แต่ถ้าพบว่าป่วย จะอยู่ในตำแหน่งไม่ได้ แต่ตอนนี้ยังไม่ทราบสาเหตุ ขออย่าเพิ่งซ้ำเติมกัน” นายวิษณุ กล่าว.-สำนักข่าวไทย