กทม. 5 พ.ย. – เพจผู้ว่าฯ อัศวิน โพสต์แผนเผชิญเหตุ ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร
เมื่อเด็กๆ ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพิ่มมากขึ้น และจะเปิดเรียนในโรงเรียนอีกครั้ง 15 พ.ย.นี้ การเตรียมพร้อม หากพบการติดเชื้อขึ้นในโรงเรียน กทม. ได้จัดทำแผนเผชิญเหตุใหม่ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร หากพบการติดเชื้อโควิด-19 ในโรงเรียน ดังนี้
1.ปิดเรียน
-กรณีพบผู้ป่วยยืนยัน 1 คนขึ้นไป ให้ปิดห้องเรียน 3 วัน งดทำกิจกรรมรวมกลุ่ม ให้ผู้ที่เสี่ยงสูงกักตัวที่บ้าน งดมาเรียนที่โรงเรียน ผู้ที่มีเสี่ยงต่ำให้มาเรียนตามปกติโดยใช้การสังเกตอาการ
-กรณีพบผู้ป่วยยืนยันมากกว่า 1 ห้องเรียน ให้ปิดชั้นเรียน 3 วัน งดทำกิจกรรมรวมกลุ่มทุกกิจกรรม และปิดโรงเรียนตามอำนาจพิจารณาของคณะกรรมการโรคติดต่อ โดยให้ผู้ที่มีความเสี่ยงสูงตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR
2.ไม่ต้องปิดโรงเรียน กรณีไม่พบผู้ป่วยยืนยันในโรงเรียน แต่มีความเสี่ยงติดเชื้อมาจากบ้านหรือชุมชนที่พักอาศัย โดยผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจากที่บ้าน ให้สังเกตอาการ 14 วัน หากพบอาการผิดปกติ ให้ไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัย ระหว่างรอผล ให้หยุดเรียนกักตัวที่บ้านผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำจากที่บ้าน ผู้ใกล้ชิดกับผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ผู้ใกล้ชิดกับผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ ให้สังเกตอาการ 14 วัน โดยไม่จำเป็นต้องหยุดเรียน
สำหรับการฉีดวัคซีนให้นักเรียนชั้นมัธยมในโรงเรียนสังกัด กทม. มีนักเรียนที่สมัครใจฉีด 34,287 คน คิดเป็น 92% ของนักเรียนทั้งหมด ระดับชั้น ม.ปลาย ฉีดครบ 2 เข็มแล้ว ประมาณ 76% ส่วน ม.ต้น ฉีดเข็มแรกไปแล้ว 90% และจะฉีดเข็ม 2 ในวันที่ 8-10 พ.ย.นี้ และจะฉีดให้กับนักเรียนที่เปลี่ยนใจ หรือพลาดการฉีดวัคซีนในรอบที่แล้วเพิ่มเติมด้วย
เมื่อนักเรียนชั้น ม.1-6 ใน รร.สังกัด กทม.ทั้ง 109 โรง ได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว จะได้กลับมาเรียนในโรงเรียนอีกครั้ง 15 พ.ย. โดยทุกโรงเรียนต้องผ่านการประเมินความพร้อมและปฏิบัติตามมาตรการ Sandbox : Safety Zone in School ที่ ศบค.และกระทรวงศึกษาธิการ กำหนด . – สำนักข่าวไทย