จับตาศาลชี้ขาดคดีเหมืองทองอัครา 31 ต.ค.นี้

พรรคเพื่อไทย 19 ต.ค.- เพื่อไทยเรียกร้องประชาชน-สื่อ จับตาคำชี้ขาดคดีเหมืองทองอัครา 31 ต.ค.นี้ ชวนลงชื่อคัดค้านปกป้องสมบัติชาติ ชี้ “พล.อ.ประยุทธ์” ต้องรับผิดชอบหลังใช้ ม.44 สร้างความเสียหาย


นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และน.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย  ร่วมแถลงข่าวเรื่องมหากาพย์ค่าโง่ เหมืองทองอัครา !! “ปกป้องทรัพย์สมบัติชาติ ไม่ให้นำไปชดใช้ความผิดพลาดจากการปิดเหมืองทองอัคราของคสช.”  ที่ใช้อำนาจมาตรา 44 ดำเนินการ โดยนายสมพงษ์ กล่าวถึงข้อห่วงใยการดำเนินการของรัฐบาล โดยเฉพาะความเสียหายที่อาจเกิดผลกระทบต่อประเทศชาติ ซึ่งกรณีเหมืองทองอยู่ในชั้นอนุญาโตตุลาการ และเมื่อ 23 กันยายน2564 ที่ผ่านมา บริษัทคิงส์เกตได้แถลงต่อตลาดหลักทรัพย์ในออสเตรเลีย แจ้งการเจรจากับรัฐบาลไทยขออนุญาตดำเนินการเรื่องต่าง ๆ โดยเร็วนั้น จึงมีความห่วงเรื่องการเจรจา ก่อนจะยื่นให้อนุญาโตตุลาการตัดสิน 31 ตุลาคมนี้ กังวลว่าหากเป็นไปตามที่คิงส์เกตแถลงต่อตลาดหลักทรัพย์ จะเกิดความเสียหายต่อประเทศชาติอย่างใหญ่หลวง

น.พ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยติดตามมาโดยตลอด ทั้งการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ ส.ส.ของพรรคนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม ได้อภิปรายเปิดประเด็นไว้เมื่อปี 2562 และ นางสาวจิราพร อภิปรายไม่ไว้วางใจปีนี้ที่เพิ่งผ่านมา ก่อนจะอธิบายถึงการใช้กฎหมายมาตรา 44 ที่72/2559 ของ คสช. ระงับการทำเหมืองแร่ทองคำเมื่อ 1 มกราคม 2560 จากนั้นได้นำประเด็นพิพาทเข้าสู่อนุญาโตตุลาการเมื่อ 5 พฤศจิกายน 2560 ก่อนจะเข้ากระบวนการไต่สวน บริษัทคิงส์เกตเรียกค่าเสียหาย 22,500 ล้านบาท ซึ่งไต่สวนที่ประเทศสิงคโปร์  ช่วงวันที่ 3-12 กุมภาพันธ์ 2563 จากนั้น 23 กันยายน 2564 บริษัทคิงส์เกตแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ของออสเตรเลียเรื่องการเจรจากับไทยว่าจะได้ข้อยุติที่เป็นประโยชน์ โดยจะประกาศข้อตัดสินชี้ขาด 31 ตุลาคมนี้


“ก่อนหน้านี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีประกาศที่ประชุมครม.ว่าจะรับผิดชอบเอง เพราะเป็นผู้ดำเนินการตั้งแต่ต้น เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2562 พรรคจึงอยู่นิ่งไม่ได้ เพราะอนุญาโตตุลาการเตรียมออกคำตัดสินชี้ขาด แต่คู่พิพาทระหว่างรัฐบาลไทย กับ บริษัทคิงส์เกตได้เจรจาตกลงกันว่าจะขอยืดเวลาสั้น ๆ ให้อนุญาโตตุลาการพิเศษออกคำตัดสินในสิ้นเดือนตุลาคมนี้ ในข้อเจรจายุติประนีประนอมข้อพิพาทที่สองฝ่ายพึงพอใจ ซึ่งถ้อยแถลงการของคิงส์เกตุ มีส่วนหนึ่งที่คนไทยต้องสนใจว่าจะเป็นมหากาพย์ค่าโง่ ที่ไทยจะสูญเสียทรัพย์สมบัติของชาติ เพื่อแลกกับความผิดพลาดของคสช. โดยเฉพาะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาที่ยึดเหมืองทองของเขามาเป็นของรัฐโดยมิชอบ ซึ่งมาตรา 44 เป็นกฎหมายบังคับใช้ที่ไม่ผ่านรัฐสภา” นพ.ชลน่าน กล่าว

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า สิ่งที่บ.คิงส์เกตแถลงอยู่นอกเหนือข้อพิพาท อ้างถึงคือ 1.ข้อเสนอของคิงส์เกตจะได้รับการตอบสนองจากรัฐบาลไทยทุกข้อโดยไม่มีข้อจำกัด ได้รับการอนุญาตทำเหมือนได้ใหม่ทั้งหมด 2. ยังได้ได้รับทำเหมืองในพื้นที่ใหม่เพิ่มเติมนอกจากเหมืองทองชาตรีที่มีอยู่ 3,900 ไร่  3.คิงส์เกตมีความมั่นใจว่าจะได้นับการสนับสนุนการลงทุน ในตลาดหลักทรัพย์จากรัฐบาลไทย มีนักลงทุนจากไทยไปร่วม และการดำเนินการครั้งใหม่จะได้รับค่าช่วยเหลือค่าภาคหลวงและภาษีต่างรวมถึงกระบวนการอนุมัติจะดำเนินการโดยเร็ว แต่ข้ามขั้นตอนไม่เป็นไปตามกฎหมายไทย

“หากรัฐบาลไทยยินยอมเช่นนั้น และคำแถลงของคิงส์เกตไปปรากฎในคำตัดสินของอนุญาโตตุลาการจริง คาดว่าไทยจะเสียหายอย่างมหาศาล เป็นการประนีประนอมที่เอาทรัพย์สมบัติชาติไปแลกกับความผิดพลาดของคสช. หรือหากอนุญาโตตุลาการตัดสินให้ไทยแพ้ ไทยก็ต้องชดใช้ เพราะเป็นไปตามอนุสัญญาระหว่างประเทศที่ไทยลงนามไว้ ที่เรียกว่า “นิวยอร์กคอนเวนชัน” ซึ่งคำตัดสินออกมาประชาชนไทยมีสิทธิ์ร้องคัดค้านให้ศาลไทยไม่ปฏิบัติตาม เพื่อร่วมกันปกป้องสมบัติชาติ” นพ.ชลน่าน กล่าว


น.ส.จิราพร กล่าวว่า รัฐบาลไม่เคยออกมาชี้แจงเรื่องนี้ ทั้งที่ประชาชนส่วนใหญ่ให้ความสนใจ แต่กลับเก็บเป็นความลับ สถานการณ์ของประเทศไทยเกี่ยวกับคดีเหมืองทองอัคราอยู่ในสภาวะแพ้คดีก็เสียหาย เจรจาก็เสียเปรียบ เพราะหากไทยแพ้คดี จะมีค่าเสียหายไม่ต่ำกว่า 25,350 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายการที่บริษัทคิงส์เกตร้องขอชดเชยค่าเสียหาย 11 รายการ หนึ่งในนั้นคือการ ขอต่ออายุและขอให้ไทยอนุมัติในใบอนุญาตสำรวจสำคัญ และเมื่อตรวจสอบพบว่าบริษัทคิงส์เกตยังมีใบอนุญาตทำเหมืองแร่และการขออัชญาบัตรพิเศษ ในการสำรวจแร่ 6 จังหวัดคือ ชลบุรี ลพบุรี พิจิตร พิษณุโลกและสระบุรี เป็นคำขอที่ค้างไว้และให้ประเทศไทยอนุมัติรวมพื้นที่ทั้งหมด 6 แสนไร่

“เท่ากับว่าจะมีสมบัติของชาติเกือบ 1ล้านไร่ ที่ต้องเสียค่าโง่จากการใช้ ม.44 สั่งปิดเหมืองทองอัคราของพล.อ.ประยุทธ์ นอกจากนี้ยังมีข้อเรียกร้องให้ไทย คืนใบอนุญาตให้ บริษัทคิงส.เกต กลับมาดำเนินการในเหมืองทองชาตรีที่ถูกระงับไป หากพล.อ.ประยุทธ์เปิดทางให้คืนใบอนุญาตตามที่ร้องขอ คำถามคือ เหตุใดจึงใช้คำสั่งม.44 สั่งปิดเหมืองทองชาตรีทองคำตั้งแต่แรก ซึ่งการปิดทำให้ประเทศไทยเสียหายอย่างหนัก และเมื่อมีการขอเจรจาปรับมีความเสียหายมากขึ้นกว่าเดิมสรุปแล้วการปิดเหมืองทองคำ ต้องเสียหายมากกว่าเดิมหรือไม่” น.ส.จิราพร กล่าว

น.ส.จิราพร กล่าวว่า ข้อเรียกร้องของบริษัทคิงส์เกต เคยยื่นดำเนินการแล้วตั้งแต่ปี 2560 ผ่านสถานเอกอัครราชทูตไทย ณกรุงแคนเบอร์รา เพื่อขอเจรจากับประเทศไทยเพื่อไม่ต้องนำเรื่องเข้าสู่คณะอนุญาโตตุลาการ แต่พล.อ.ประยุทธ์ปฏิเสธ พร้อมยืนยันจะไม่เปิดให้ทำเหมืองทองคำในประเทศไทยอีกต่อไป แต่มาถึงวันนี้กลับพบว่าสิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์เคยปฏิเสธถูกนำไปดำเนินการตามข้อเรียกร้องของบริษัทคิงส์เกต 4 แสนไร่ และมีแนวโน้มจะเพิ่มอีก 6 แสนไร่

“แม้ขณะนี้ยังไม่มีคำชี้ขาดจากคณะอนุญาโตตุลาการ ต้องรอวันที่ 31 ตุลาคม นี้ แต่ความเสียหายได้เกิดขึ้นกับประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว เพราะทันทีที่สั่งปิดเหมืองทองอัครา ส่งผลกระทบให้ประชาชนกว่า 1000 ชีวิตตกงาน ส่วนปัญหาสิ่งแวดล้อมที่พล.อ.ประยุทธ์อ้างต้องสั่งปิดเหมืองทอง ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงการใช้ ม.44 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ทำลายความน่าเชื่อถือของประเทศอย่างมาก เพราะการสั่งปิดโดยที่ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจนเป็นการแสดงถึงความไม่เข้าใจ และการใส่ใจในกฎกติการะหว่างประเทศ ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติและความเชื่อมั่นของประเทศที่ประเมินมูลค่าความเสียหายไม่ได้ โดยสิ่งสำคัญมีใบเสร็จความเสียหายเกิดขึ้น หลังครม.อนุมัติงบจากภาษีประชาชนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการระงับข้อพิพาท จำนวน 731 ล้านบาท จึงขอตั้งคำถามไปยังพล.อ.ประยุทธ์ ว่าการใช้งบประมาณแผ่นดิน ไปดำเนินการในคดีที่เป็นความผิดของตัวเอง แบบนี้เป็นความรับผิดชอบของชายชาติทหารหรือไม่” น.ส.จิราพร กล่าว

น.ส.จิราพร กล่าวว่า ผู้ที่ใช้มาตรา 44 สั่งปิดเหมืองทองอัคราคือพล.อ.ประยุทธ์ จึงถือเป็นจำเลยหลักในคดีนี้ และ มีคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเป็นจำเลยร่วม การใช้มาตรา44 อาจทำให้ผู้ใช้รอดในประเทศ แต่ไม่ได้ทำให้ประเทศรอดจากกฎกติการะหว่างประเทศ ความเสียหายของคดีเหมืองทองอัคราเป็นตัวอย่างความเร็วร้ายของ มาตรา44 เป็นมรดกบาปของคณะรัฐประหารที่สร้างไว้กับประเทศไทย ทำให้ประเทศไทยเดินมาถึงจุดที่ต่างชาติฟ้องร้อง พรรคเพื่อไทยเป็นสถาบันการเมือง ยืนยันว่าได้ทำหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติในประเด็นเหมืองทองอัครามาโดยตลอด และขอเรียกร้องให้ประชาชนสื่อมวลติดตาม การออกคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการในวันที่ 31 ต.ค.นี้ และขอให้ประชาชนร่วมกับพรรคเพื่อไทยลงชื่อคัดค้านพล.อ.ประยุทธ์นำสมบัติและภาษีของชาติ ไปชดใช้ความผิดของตนเอง โดยพรรคเพื่อไทยจะประกาศผ่านแพลตฟอร์มให้ประชาชนร่วมลงชื่อคัดค้าน.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

ศึกชิงนายก อบจ.เพชรบุรี แชมป์เก่ายังแรง

เลือกตั้งนายก อบจ.เพชรบุรี ไม่คึกคัก ผลไม่เป็นทางการ “ชัยยะ อังกินันทน์” แชมป์เก่า คะแนนนำทิ้งห่างคู่แข่ง ด้านเลขาฯ กกต. เผยภาพรวมทั้ง 3 จังหวัด คนมาใช้สิทธิน้อย คาดเบื่อเลือกตั้ง 2 รอบ

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

ลุ้นผลเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ขณะนี้การนับคะแนนตามหน่วยต่างๆ เสร็จสิ้นแล้ว อยู่ในขั้นตอนการรวมคะแนน ซึ่งในเขตเมือง ผลปรากฏว่าผู้สมัครจากพรรคประชาชนมีคะแนนนำ แต่อำเภอรอบนอก ตัวแทนพรรคเพื่อไทยมีคะแนนนำอยู่หลายหน่วยเลือกตั้ง