อุดรธานี 3 ต.ค. – คนร้ายบุกบ้านชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่กับภรรยาคนไทย เอาปืนจี้หวังชิงทรัพย์ แต่ถูกต่อยจนสลบ ก่อนถูกมัดมือมัดเท้าไว้ เพื่อรอแจ้งตำรวจ สุดท้ายคนร้ายถูกต่อยจนสลบและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.อุดรธานี นำกำลังตำรวจควบคุมตัวนายรูดอล์ฟ ผู้ต้องหา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ พร้อมอาวุธปืนสั้นขนาด .38 มีกระสุนอยู่ในลูกโม่ 5 นัด และปลอกกระสุนปืน 1 ปลอก หลังจากชกต่อยนายเสถียร คนร้าย จนสลบ ก่อนจับมือมัดเท้าไว้ และนายเสถียรเสียชีวิตในเวลา
นายรูดอล์ฟให้การว่า อาศัยอยู่กับภรรยาในบ้านเกิดเหตุ ประมาณ 22.30 น. เมื่อคืนนี้ นั่งดื่มกาแฟอยู่ที่โต๊ะห้องครัวหลังบ้าน ส่วนภรรยากลับมาจากดื่มสังสรรค์กับเพื่อนแล้วเข้านอน ผู้ตายปีนรั้วคอนกรีตถืออาวุธปืนเข้ามา พร้อมกับเล็งปืนมาที่ตน และพูดว่าส่ง money money ตนจึงเดินเข้าไปจับแขนผู้ตายทุ่มลงกับพื้นและแย่งปืน ขณะแย่งปืนกัน ปืนเกิดลั่น 1 นัด แต่ไม่ถูกใคร เมื่อแย่งปืนมาได้ก็โยนทิ้งลงสระน้ำข้างบ้าน และชกต่อย เตะผู้ตายจนสลบ เกรงว่าผู้ตายจะฟื้นขึ้นมาทำร้ายตนอีก จึงนำเชือกมามัดมือมัดเท้าไว้ ก่อนไปปลุกภรรยาให้แจ้งผู้ใหญ่บ้านให้แจ้งตำรวจ แต่พอผู้ใหญ่บ้านมาตรวจพบว่านายเสถียรเสียชีวิตแล้ว ซึ่งนายรูดอล์ฟยืนรอมอบตัวกับตำรวจแต่โดยดี
ส่วนนางลักษณ์ ภรรยานายรูดอล์ฟ บอกว่า สามีมีอาชีพเป็นสถาปนิกมาประมาณ 10 ปี และมีเงินเกษียณสำหรับใช้จ่าย ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกับใคร ไม่เคยมีศัตรู เมื่อ 2 ปีก่อนได้รู้จักกับนายเสถียร ผู้ตาย เพราะเป็นเพื่อนของเพื่อน ซึ่งมีอาชีพรับจ้างทั่วไปและทำนา เห็นที่ไหนก็ทักทายกันธรรมดา แปลกใจไม่คิดว่าผู้ตายจะบุกมาชิงทรัพย์สามีตน และต่อสู้กันจนถึงแก่ความตาย
ด้านผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า การดำเนินคดีแยกออกเป็น 2 ส่วน คดีแรกตั้งข้อหานายเสถียร ผู้ตาย “บุกรุกในเวลากลางคืน พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหรือหมู่บ้าน และพยายามฆ่า”
ส่วนคดีที่ 2 ตั้งข้อหานายรูดอล์ฟ “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย” อย่างไรก็ตาม ต้องคำนึงถึงเหตุแห่งการป้องกันตัวตามหลักกฎหมาย ซึ่งตำรวจจะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ส่วนเหตุหรือแรงบันดาลใจที่บุกเข้ามา นอกจากจะประสงค์ต่อทรัพย์แล้ว อย่างอื่นต้องสอบอย่างละเอียด ซึ่งพฤติกรรมเป็นตัวบ่งบอกถึงเจตนาอยู่แล้วว่าบุกรุกบ้านผู้อื่นยามวิกาล และมีอาวุธปืนเข้ามา ถือว่าเป็นเหตุฉกรรจ์ ทำให้เจ้าของบ้านต่อสู้.-สำนักข่าวไทย