ตลท. 6 ก.พ. – ตลาดหุ้นไทยบวก 6.18 จุด แรงซื้อหุ้นกลุ่มแบงก์และเก็งกำไรผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน 3 เดือนข้างหน้า ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับร้อนแรงครั้งแรกในรอบ 5 เดือน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดตลาดวันนี้ (6 ก.พ.) ที่ระดับ 1,589.13 จุด เพิ่มขึ้น 6.18 จุด มูลค่าการซื้อขาย 55,685.89 ล้านบาท โดยดัชนีเคลื่อนไหวแดนบวก ขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,592.68 จุด ขณะที่ดัชนีทำระดับต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,584.44 จุด
นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นตามแรงซื้อที่มีเข้ามาในหุ้นกลุ่มแบงก์และตลาดหุ้นทั่วโลกทั้งสหรัฐและภูมิภาค รวมทั้งยังมีแรงเก็งกำไรเข้ามาในหุ้นของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่จะทยอยประกาศผลประกอบการในช่วงสัปดาห์หน้า ขณะที่ราคาน้ำมันดิบที่ยังทรงตัวระดับสูงหนุนให้มีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มพลังงาน
ด้านประเภทนักลงทุน สถาบัน ซื้อสุทธิ 2,161.19 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 527.06 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติ ซื้อสุทธิ 1,194.20 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อย ขายสุทธิ 2,828.32 ล้านบาท
นายคเณศ วังส์ไพจิตร เลขาธิการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนเดือนกุมภาพันธ์ 2560 ว่า ภาพรวมดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับร้อนแรงครั้งแรกในรอบ 5 เดือน
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 3 เดือนข้างหน้า (เมษายน 2560) อยู่ที่ 120.59 อยู่ในเกณฑ์ร้อนแรง ปรับตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 17.09 จากเดือนที่ผ่านมาที่ 102.99 ดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกกลุ่ม โดยกลุ่มสถาบันในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นจนอยู่ในระดับร้อนแรง ขณะที่ดัชนีนักลงทุนต่างชาติและรายบุคคลยังคงอยู่ในระดับทรงตัวเช่นเดียวกับเดือนที่ผ่านมา หมวดธุรกิจที่น่าสนใจมากที่สุด คือ บริการรับเหมาก่อสร้าง (CONS) ส่วนหมวดธนาคาร (BANK) เป็นหมวดธุรกิจที่ไม่น่าสนใจมากที่สุด
ปัจจัยหนุนที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนงวดบัญชีไตรมาส 4/2559 และปัจจัยฉุดที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ ความผันผวนของกระแสเงินทุน .-สำนักข่าวไทย