กรุงเทพฯ 29 ก.ย.-“สุพจน์ ไข่มุกด์” ย้ำต้องตีความการดำรงตำแหน่งนายกฯ ของ “พล.อ.ประยุทธ์” ตามหลักนิติรัฐ นับการดำรงตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญ 60 โดยไม่นับเป็นนายกฯ ช่วง คสช. แต่ยอมรับหากมองเจตนารมณ์ด้านรัฐศาสตร์ ไม่อยากให้ผูกขาดการเมือง
นายสุพจน์ ไข่มุกด์ อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และอดีตรองประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงกรณีที่มีข้อสงสัยเรื่องการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในรัฐธรรมนูญ มาตรา 158 วรรคสี่ ว่าตามมาตรานี้ระบุว่านายกรัฐมนตรีจะดำรงตำแหน่งรวมกันแล้วเกิน 8 ปีมิได้ ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นการดำรงตำแหน่งติดต่อกันหรือไม่ ซึ่งเจตนารมณ์หรือความมุ่งหมายของมาตรานี้ที่กำหนดระยะเวลาไว้ เพื่อไม่ให้ผูกขาดอำนาจทางการเมืองยาวเกินไป และอาจจะเป็นต้นเหตุให้เกิดวิกฤติการเมืองในอนาคตได้ แต่ต้องยอมรับว่าเราต้องยึดหลักนิติรัฐ หรือกฎหมายเป็นหลักในการปกครองประเทศ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้ามาบริหารประเทศโดยผ่านการลงมติจากรัฐสภาให้เป็นนายกรัฐมนตรีในปี 2562 ตามรัฐธรรมนูญปี 2560 ดังนั้นการเป็นนายกรัฐมนตรีก่อนหน้านี้ ไม่ถือเป็นนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญในปัจจุบัน อย่างไรก็ตามหากมีข้อสงสัยก็ควรส่งศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความ แต่ก็ไม่มั่นใจว่าศาลรัฐธรรมนูญจะรับหรือไม่ เพราะเหตุการณ์ยังไม่เกิดขึ้น หรือศาลรัฐธรรมนูญอาจจะมองว่าเพื่อให้เกิดความชัดเจน และเกิดข้อยุติทางการเมือง
“ตอนปี 57 ยังไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน เราใช้บทเฉพาะกาล นายกฯไม่ได้ผ่านการเลือกตั้ง ไม่ได้ผ่านกระบวนการรัฐสภา ก็ไม่เข้า และไม่สอดคล้องกับมาตรานี้ อันนี้เป็นนัยยะทางกฎหมายแท้ๆ เลย ถ้าจะนับจริงๆ แล้ว ฉะนั้นผมเห็นว่านายกรัฐมนตรีถ้าจะลงเลือกตั้งอีกเป็นวาระที่สองก็เกิน 8 ปีไม่ได้ ถ้าวาระนี้ครบ 4 ปี ก็จะได้อีกวาระหนึ่ง 4 ปี เป็น 8 ปี แต่หากมองทางด้านรัฐศาสตร์จะเป็นการผูกขาดอำนาจทางการเมืองหรือไม่ แต่เราจะถือหลักอะไร เราต้องถือหลักนิติรัฐ เพราะเราปกครองบ้านเมืองโดยหลักกฎหมาย ส่วนอีกฝ่ายจะมองว่าเป็นการสืบทอดอำนาจ ก็เป็นอีกนัยยะหนึ่ง หากส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความอาจจะยังไม่รับ เพราะเหตุการณ์ยังไม่เกิดขึ้น” นายสุพจน์ กล่าว
นายสุพจน์ กล่าวว่า แม้ตีความตามหลักกฎหมาย แต่เป็นเรื่องที่เป็นข้อสังเกตของผู้มีอำนาจที่ต้องคิดว่า หากต้องการให้ยุติปัญหาทางการเมือง ก็ไม่ควรอยู่ในอำนาจเกิน 8 ปี แต่ส่วนตัวก็ไม่แน่ใจว่า แม้นายกรัฐมนตรีจะไม่ดำรงตำแหน่งต่อ ความวุ่นวายทางการเมืองจะหมดไปหรือไม่ เพราะปัจจุบันก็มีประเด็นการเมืองอื่น ๆ เกิดขึ้นด้วย .- สำนักข่าวไทย