กรุงเทพฯ 23 ก.ย.– โครงการระบบขนส่งน้ำมันไปภาคเหนือ เปิดบริการเชิงพาณิชย์แล้ว เป็นระบบท่อขนส่งน้ำมันที่ยาวที่สุดในประเทศ เสริมสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงาน
นายเจริญ จารุไสลพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด (FPT) บริษัทย่อยของ บมจ. บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ (BAFS) เปิดเผยว่าโครงการขยายระบบขนส่งน้ำมันไปภาคเหนือ ได้เปิดบริการเชิงพาณิชย์ (Commercial Operation Date – COD) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา
โครงการขยายระบบขนส่งน้ำมันไปภาคเหนือ เป็นระบบขนส่งน้ำมันตามมาตรฐานสากล ที่ขนส่งน้ำมันอากาศยาน น้ำมันดีเซล และน้ำมันเบนซิน ในท่อเดียวกัน จากคลังน้ำมันบางปะอินไปยังคลังน้ำมันพิจิตรและคลังน้ำมันนครลำปาง รวมระยะทางทั้งสิ้น 576 กิโลเมตร ซึ่งเป็นระบบขนส่งน้ำมันทางท่อที่ยาวที่สุดในประเทศ และมีความสามารถในการขนส่งน้ำมันได้สูงสุด 9,000 ล้านลิตรต่อปี ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งน้ำมันเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ และสามารถรองรับการขนส่งน้ำมันไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เชื่อมต่อประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในอนาคต ขณะนี้บริษัทน้ำมันชั้นนำต่าง ๆ ได้เริ่มเข้าใช้บริการจ่ายน้ำมันผ่านระบบท่อของโครงการฯ แทนการขนส่งจากรถบรรทุกน้ำมันแล้ว ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไม่ต่ำกว่า 30,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี และช่วยลดอุบัติเหตุจากการขนส่งน้ำมันด้วยรถบรรทุกน้ำมันขนาดใหญ่ได้อีกด้วย
โครงการขยายระบบขนส่งน้ำมันไปภาคเหนือ ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ด้านพลังงานของรัฐบาล เป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งพลังงานของประเทศที่สำคัญซึ่งจะรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจในอนาคต แบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือโครงการระยะที่ 1 (บางปะอิน-กำแพงแพชร-พิจิตร) ต่อขยายจากท่อขนส่งน้ำมันเดิมของ FPT จากคลังน้ำมันบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยาไปยังคลังน้ำมันพิจิตร อำเภอวชิรบารมี จังหวัดพิจิตร ระยะทาง 367 กิโลเมตร และโครงการระยะที่ 2 (กำแพงเพชร-ลำปาง) จากสถานีเพิ่มแรงดันและแยกระบบท่อกำแพงเพชรไปยังคลังน้ำมันนครลำปาง อำเภอสบปราบ จังหวัดลำปาง ระยะทาง 209 กิโลเมตร .-สำนักข่าวไทย