ซิดนีย์ 23 ก.ย. – นายกรัฐมนตรีสก็อตต์ มอร์ริสัน ของออสเตรเลีย กล่าวว่า เขาได้พยายามนัดหมายเพื่อพูดคุยทำความเข้าใจกับประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ประสบความสำเร็จ หลังจากเมื่ออาทิตย์ก่อน ออสเตรเลียยกเลิกสัญญาต่อเรือดำน้ำกับฝรั่งเศส ทำให้เกิดข้อพิพาททางการทูตระหว่างกัน
นายมอร์ริสัน กล่าวว่า เขาจะอดทนเพื่อที่จะรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับฝรั่งเศสต่อไป รัฐบาลฝรั่งเศสเรียกตัวทูตประจำกรุงแคนเบอร์รา ของออสเตรเลียและกรุงวอชิงตันของสหรับกลับประเทศ โดยระบุว่า ฝรั่งเศสถูกเมินจากกรณีที่ออสเตรเลียตัดสินใจต่อเรื่องดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์กับสหรัฐและอังกฤษและฉีกสัญญากับฝรั่งเศสที่ตกลงจะให้บริษัทฝรั่งเศสต่อเรือดำน้ำใช้น้ำมันดีเซลให้ นายมาครงและประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ พูดคุยกันทางโทรศัพท์ในวันพุธเพื่อประสานความสัมพันธ์และฝรั่งเศส ตอบตกลงที่จะส่งทูตกลับไปยังกรุงวอชิงตันในสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ตาม นายมอร์ริสัน ซึ่งขณะนี้อยู่ในสหรัฐเพื่อเข้าร่วมประชุมหลายรายการ กล่าวว่า เขาพยายามนัดหมายเพื่อพูดคุยกับนายมาครง แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ แต่เขาจะอดทนพยายามต่อไปเรื่อย ๆ นายมอร์ริสัน กล่าวภายหลังหารือกับสมาชิกรัฐสภาสหรัฐเกี่ยวกับข้อตกลงต่อเรือดำน้ำและการจัดตั้งพันธมิตรด้านความมั่นคงใหม่กับสหรัฐและอังกฤษที่เรียกว่า “ออคุส” ว่า เขาเข้าใจความรู้สึกผิดหวังของฝรั่งเศสและระบุว่า การยกเลิกสัญญาเรือดำน้ำมูลค่า 60,000 ล้านดอลลาร์ เป็นประเด็นความขุ่นเคืองใจที่แตกต่างกันกับของฝรั่งเศสกับสหรัฐ ดังนั้นการกลับไปประสานความเข้าใจกับฝรั่งเศสของออสเตรเลียจำเป็นต้องใช้เวลา นายมอร์ริสัน กล่าวด้วยว่า ทั้งข้อตกลงสร้างกองเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ของออสเตรเลียและข้อตกลงไตรภาคีด้านพันธมิตรความมั่นคง ก็รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีในระหว่างที่เขาพบกับเจ้าหน้าที่และสมาชิกรัฐสภาสหรัฐ.-สำนักข่าวไทย