ชื่นชมทุกภาคส่วนร่วมกำจัดข่าวปลอม

ทำเนียบรัฐบาล 22 ก.ย.-รองโฆษกรัฐบาลเผยนายกฯ ชื่นชมทุกหน่วยงาน ภาคประชาสังคม ประชาชนที่ช่วยกันดูแลตรวจสอบข่าวปลอม ข่าวบิดเบือนลดลง เดินหน้าสร้างความตระหนักรู้ ใช้โซเชียลมีเดียที่รับผิดชอบต่อสังคม


น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรับทราบรายงานของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส) เกี่ยวกับสถานการณ์ข่าวปลอมและข่าวบิดเบือนว่า ในปี 2564 มีแนวโน้มลดลง ส่วนจำนวนข่าวจริงมีมากขึ้น

“นายกรัฐมนตรีชื่นชมการทำงานของทั้งดีอีเอสในฐานะหน่วยงานหลัก รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภาคประชาสังคม ประชาชนที่ร่วมกันทำงาน แจ้งเบาะแสข่าวที่ต้องรตรวจสอบ หาข้อมูลข้อเท็จจริงชี้แจงข้อมูลให้เกิดความเข้าใจในวงกว้าง โดยเฉพาะในยุคที่มีโซเชียลมีเดียหลากหลายแพลตฟอร์ม มีการสื่อข้อมูลข่าวสารจำนวนมากอย่างรวดเร็ว ภาครัฐฝ่ายเดียวคงไม่สามารถดูแลได้ต้องอาศัยประชาชนช่วยกันดูแลด้วย” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว


น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีขอให้ทุกภาคส่วนร่วมกันทำงานอย่างเข้มแข็งต่อไป โดยเฉพาะการสร้างภูมิคุ้มกันให้สังคมจากการหลงเชื่อข่าวปลอม ข่าวบิดเบือน การรู้จักวิธีตอบโต้ข่าวปลอม การสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยี การใช้โซเชียลมีเดียที่ปลอดภัยและมีความรับผิดชอบต่อสังคม

“ในยุคที่โซเชียลมีเดียแพร่หลายมีแง่มุมที่ดีคือเป็นพื้นฐานของกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ สนับสนุนการเกิดความคิดสร้างสรรค์ แต่อีกด้านหนึ่งก็เป็นช่องทางการส่งข้อข่าวสารที่สร้างความเข้าใจผิด ความตื่นตระหนก รวมถึงสร้างความแตกแยกในสังคม  ซึ่งต้องอาศัยกลไกความร่วมมือทั้งหน่วยงานรัฐ เอกชน รวมถึงประชาชนในการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องร่วมกัน แนวโน้มที่ข่าวปลอม ข่าวบิดเบือนที่ลดลงนี้ นายกรัฐมนตรีชื่นชมการทำงานของทุกฝ่ายทั้ง และขอให้ร่วมกันทำงานที่เข้มแข็งเช่นนี้ต่อไป” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว

น.ส.ไตรศุลรี กล่าวว่า ดีอีเอสรายงานว่าในปีงบประมาณ 2564 สัดส่วนข่าวปลอมลดลง 26.43% เมื่อเทียบกับปี 2563 ข่าวบิดเบือนลดลง 6.69% ขณะที่ข่าวจริงเพิ่มขึ้น 28.66% นอกจากนี้ดีอีเอสได้ร่วมกับหน่วยงานผู้บังคับใช้กฎหมาย ทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมและความมั่นคง (ANSCOP) (ศตปค.ตร.)  กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อผู้กระทำความผิด โดยปี 2563 มีจำนวนคดีที่เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย 158 ราย ดำเนินคดีแล้ว 59 ราย ส่วนปี 2564 จำนวนคดีที่เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย 135 ราย ดำเนินคดีแล้ว 57 ราย.-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

“ชัชชาติ” รับหลักฐานบางส่วนเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

“ชัชชาติ” นำทีม กทม. พบ นายกฯ รายงานคืบหน้ากู้ซากอาคาร สตง. ถล่ม ย้ำ รัฐ-เอกชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขาดเหลือด้านใด เผย นายกฯ ติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเก็บหลักฐาน แนะ ไปหน้างานประสานเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้เลย ยอมรับ หลักฐานบางส่วนพังเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

ปิดเขาล้อมจับมือปืนลำดับ 93 หนีคดี 10 ปี

ปฏิบัติการบุกขึ้นเขาปิดล้อม จับกุมมือปืนคนสำคัญ ลำดับ 93 ค่าหัว 1 แสนบาท ก่อเหตุอุกอาจหนีคดีมา 10 ปี แต่สุดท้ายไม่รอดมือตำรวจ

“อันวาร์” โพสต์ภาพคุย “ทักษิณ” พร้อมคณะ สร้างสันติภาพเมียนมา

“อันวาร์” ประธานอาเซียน โพสต์ภาพคุย “ทักษิณ” พร้อมคณะ แลกเปลี่ยนการสร้างสันติภาพในเมียนมา ก่อนประชุมทางไกลหารือ NUG

ตึกถล่ม

นายกฯ เผยตำรวจรวบรวมหลักฐานแล้ว ตึก สตง.ถล่ม จ่อหมายจับเร็วๆ นี้

นายกฯ ถก ผบ.ตร.-อธิบดีดีเอสไอ คืบหน้าคดีอาคาร สตง. ถล่ม ระบุตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานแล้ว เตรียมออกหมายจับเร็วๆ นี้ ย้ำต้องมีผู้รับผิดชอบ กระทุ้งหน่วยงานให้ความร่วมมือส่งข้อมูล-เอกสาร เพื่อหารายละเอียดเอาผิด ย้ำรับไม่ได้สูญเสียหลายชีวิต