กรุงเทพฯ 10 ก.พ.- กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน(พพ.) เผยเตรียมเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) แบบขายไฟฟ้าเข้าระบบได้ราว 100 เมกะวัตต์ในเดือน ก.ย.นี้ ส่วนโครงการพลังงานลม (วินด์ฟาร์ม)หารือเอกชนร่วมหาทางออก ย้ายพื้นที่ได้หาก ส.ป.ก.ชี้ชัดไม่สามารถตั้งวินด์ฟาร์มได้
นายประพนธ์ วงษ์ท่าเรือ อธิบดี พพ. กล่าวว่า พพ.อยู่ระหว่างศึกษารายละเอียดเพื่อติดตั้ง โซลาร์รูฟท็อปรอบใหม่ ในรูปแบบที่สามารถจำหน่ายไฟฟ้าส่วนเกินเข้าระบบได้รวม 100 เมกะวัตต์ ซึ่งอาจจะส่งเสริมในอาคารพาณิชย์-โรงงาน ประมาณ 80-90 เมกะวัตต์ และบ้านที่อยู่อาศัยประมาณ 10-20 เมกะวัตต์ โดยกำหนดค่าไฟฟ้าในส่วนของบ้านสูงกว่าอาคารพาณิชย์ เพราะนิติบุคคลจะได้รับการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไออยู่แล้ว ทั้งนี้ อัตรารับซื้อไฟฟ้าจะไม่สูงกว่า ค่าไฟฟ้าที่ค้าในระบบส่ง หรือ อัตราที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)จำหน่ายแก่ การไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย เพื่อไม่ให้ผลกระทบต่อค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที) ที่ประชาชนได้รับ และพื้นที่ที่ประกาศรับซื้อน่าจะอยู่ในพื้นที่ของ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.)
“สำหรับการเปิดรับซื้อไฟฟ้า โซลาร์รูฟท็อป จะรอผลการวัดความสำเร็จ จากโครงการทดลองโซลาร์รูฟท็อปเสรีที่ เปิดให้สมัครแบบผลิตเพื่อใช้เอง ซึ่งมีผู้สมัคร 40 เมกะวัตต์ จาก 100 เมกะวัตต์ จะติดตั้งเข้าระบบเสร็จในเดือน มีนาคม 2560 โดย พพ.ได้ให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยศึกษาทั้งผลดีผลเสียของโครงการนี้เพื่อนำมาประกอบการรับซื้อในโครงการใหม่” นายประพนธ์ กล่าว
สำหรับในปี 2560 กระทรวงพลังงานจะมีการเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนรวม 1,000 เมกะวัตต์ เนื่องจากมีกำลังผลิตคงค้างจากปี 2559 บางส่วนที่ยังไม่ได้เปิดรับซื้อ รวมถึงกำลังผลิตที่มีกำหนดเปิดรับซื้อปีนี้ประมาณ 600 เมกะวัตต์ ซึ่ง พพ. จะหารือกับสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน และคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ว่าจะเปิดรับซื้อเชื้อเพลิงประเภทใด,ปริมาณเท่าใดและในช่วงเวลาใด
นายประพนธ์ กล่าวด้วยว่า ในวันนี้ พพ. ได้เชิญผู้ผลิตไฟฟ้า วินด์ฟาร์ม จำนวน 15 ราย รวม 1,000 เมกวัตต์ ซึ่งอยู่ในพื้นที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกร ( ส.ป.ก.)มาหารือหาทางออกร่วมกัน ก่อนที่ กระทรวงพลังงาน จะไปหารือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ โดยกระทรวงพลังงาน เตรียมแผนรองรับ เช่น กรณีรายที่มีการเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าแล้ว 5 ราย ประมาณ 350 เมกวัตต์ หากต้องหยุดผลิต แล้วต้อง ออกจาก พื้นที่ ส.ป.ก. ก็จะเปิดโอกาสให้ ผู้ประกอบการ หาพื้นที่ใหม่ และสามารถเริ่มผลิต ถือว่าเป็นการนับหนึ่งของสัญญาซื้อขายไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม คงต้องรอดูรายละเอียดข้อเสนอของเอกชน และการตัดสินใจ ของ ส.ป.ก.ด้วย -สำนักข่าวไทย