กทม. 5 ก.ย.-กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เน้นย้ำศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า เข้มงวดด้วยมาตรการความปลอดภัย 3 ด้าน หลังมีการผ่อนคลายให้กลับมาเปิดบริการอีกครั้ง เพื่อป้องกันการติดและแพร่เชื้อของโควิด-19
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากการออกข้อกำหนด “ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์” ออกความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ฉบับที่ 32 นั้น กำหนดให้ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) เปิดให้บริการได้ นั้น แต่เนื่องจากจัดเป็นพื้นที่ที่คนรวมตัวกันค่อนข้างสูง จึงขอความร่วมมือศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า ที่เปิดดำเนินการต้องเฝ้าระวังความเสี่ยงพร้อมปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ดังนี้
- ทำความสะอาดจุดสัมผัสร่วม และห้องน้ำ ทุก 1-2 ชั่วโมง
- ส่งเสริมให้ชำระเงินแบบออนไลน์
- ทำสัญลักษณ์เว้นระยะห่างบริเวณทางเข้าและจุดต่อคิว
- จัดระบบ จัดคิวจำกัดจำนวนคนไม่เกิน 1 คนต่อ 4 ตารางเมตร
- จัดให้มีฉากกั้นระหว่างพนักงาน (แคชเชียร์) และลูกค้า
- เดินระบบจ่ายอากาศสะอาดหรือเปิดประตู หน้าต่าง อย่างน้อย 30 นาที ก่อนเปิดและหลังปิดระบบปรับอากาศมีการระบายอากาศที่เหมาะสมต่อจำนวนคน ส่วนห้องน้ำควรเปิดพัดลมระบายอากาศตลอดเวลา ที่ให้บริการ และขอความร่วมมือให้ประเมินและรับรองตนเองผ่านแพลตฟอร์ม Thai Stop COVID Plus และแสดงใบรับรอง เพื่อสร้างความมั่นใจทั้งสถานประกอบการและผู้ใช้บริการ
นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า สำหรับมาตรการที่จะบังคับใช้ในอนาคตซึ่งจะพิจารณาตามสถานการณ์ ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไปนั้น คือ การใช้มาตรการ COVID Free Setting ประกอบด้วยความปลอดภัย 3 ด้าน คือ
- ด้านสิ่งแวดล้อมปลอดภัย (COVID Free Environment) อาทิ การทำความสะอาดจุดสัมผัสร่วม ทุก 1- 2 ชั่วโมง เช่น ปุ่มกดลิฟต์ ราวจับบันได ราวจับรถเข็น ที่เปิดประตู หมั่นทำความสะอาดสินค้า ทำความสะอาดระบบปรับอากาศทุก 3 เดือน ใช้ระบบกรองอากาศ HEPA หรือติดตั้งอุปกรณ์กรองอากาศเฉพาะที่ เน้นบริเวณที่มีคนจํานวนมากและอากาศไม่ไหลเวียน เช่น ร้านอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ต เป็นต้น อีกทั้งเข้มงวดเรื่องมาตรการห้ามการรวมตัวกันจุดใดจุดหนึ่งด้วย
- ด้านพนักงานปลอดภัย (COVID Free Personnel) มีภูมิคุ้มกัน โดยพนักงานทุกคนฉีดวัคซีนครบโดส หรือเคยมีประวัติการติดเชื้อโควิดมาก่อน อยู่ในช่วง 1-3 เดือน และให้มีการคัดกรองความเสี่ยงพนักงานทุกวันด้วยระบบไทยเซฟไทย รวมถึงจัดหา ATK ให้พนักงาน เพื่อทําการตรวจทุก ๆ 7 วัน กำชับให้งดรวมกลุ่มขณะปฏิบัติงาน ระหว่างพัก และงดกินอาหารรวมกัน และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention) “ความปลอดภัยสุดท้ายคือ
- ด้านผู้ใช้บริการปลอดภัย (COVID Free Customer) ให้คัดกรองความเสี่ยงก่อนเข้าร้านด้วยแพลตฟอร์ม “ไทยเซฟไทย” หรือแอปพลิเคชันอื่นที่ทางราชการกำหนด หากจะใช้บริการในกิจการเสี่ยง ได้แก่ ร้านอาหาร ร้านเสริมสวย ตัดผม คลินิกเวชกรรมเสริมความงาม ต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนครบโดส หรือประวัติการติดเชื้อมาก่อนในช่วง 1-3 เดือน หรือตรวจ ATK ผลเป็นลบ ระยะเวลาไม่เกิน 7 วัน และผู้ประกอบการต้องปฏิบัติตามมาตรการหรือข้อกำหนดของจังหวัดด้วย” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว .-สำนักข่าวไทย