นครสวรรค์ 27 ส.ค. – “อดีต ผกก.โจ้” และ “อดีตรองต้อง” ถูกคุมตัวถึง สภ.เมืองนครสวรรค์ กลางดึก รอง ผบ.ตร.เค้นสอบทันที เบื้องต้นสั่งดำเนินคดีใน 3 ข้อหาหนัก
เมื่อเวลา 01.00 น. วันนี้ (27 ส.ค.) ร.ต.ท.ธรณินทร์ มาศวรรณา อดีตรอง สว.(ป.) สภ.เมืองนครสวรรค์ ถูกคุมตัวจากกองปราบปราม โดยเฮลิคอปเตอร์ มาถึง สภ.เมืองนครสวรรค์ โดยทันทีที่เจอกองทัพผู้สื่อมวลชน ก็ได้กล่าวสั้นๆ เพียงว่า ผมมอบตัว และขอความเป็นธรรมครับ ก่อนถูกเจ้าหน้าที่คุมตัวเข้าไปสอบสวนและทำบันทึกจับกุม จากนั้นอีกประมาณ 30 นาทีต่อมา “อดีต ผกก.โจ้” พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล ก็ถูกคุมตัวมาถึง สภ.เมืองนครสวรรค์ สาเหตุที่เดินทางมาถึงช้ากว่า ร.ต.ท.ธรณินทร์ เนื่องจากอดีต ผกก.โจ้ ถูกคุมตัวจากกองปราบฯ โดยรถตู้ อดีต ผกก.โจ้ สวมเสื้อสีเขียวเข้ม สวมหมวกแก๊ปสีน้ำเงิน ที่ข้อมือมีผ้าสีขาวพันอยู่ เดินเข้า สภ.เมืองนครสวรรค์ โดยมีเจ้าหน้าที่ชุดหนุมานกองปราบหิ้วปีกแขนทั้ง 2 ข้าง
ระหว่างที่ พล.ต.อ.สุชาติ สอบปากคำ อดีต ผกก.โจ้ ได้ขออนุญาตไปเข้าห้องน้ำ ซึ่งก็ต้องมีชุดหนุมานกองปราบควบคุมตัวไป และระหว่างเดินกลับมาสอบสวนต่อ อดีต ผกก.โจ้ ได้พูดคุยทักทายกับตำรวจนายหนึ่งอย่างเป็นกันเอง
จากนั้นประมาณ 01.36 น. พล.ต.อ.สุชาติ ได้เดินออกมา และบอกกับสื่อมวลชนว่า ส่วนของตนวันนี้จบแล้ว ช่วงบ่ายวันนี้จะรู้เรื่อง จากนี้ตำรวจจะสอบสวนต่อ เพราะต้องส่งตัวฝากขังเช้าวันนี้
ส่วน 2 ผู้ต้องหา อดีต ผกก.โจ้ และ ร.ต.ท.ธรณินทร์ ถูกคุมตัวออกจาก สภ.เมืองนครสวรรค์ ขึ้นรถไป บก.ภ.จว.นครสวรรค์ ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม โดยระหว่างเดินออกมาจากห้องกระจกเล็ก มีตำรวจนายหนึ่งยกมือไหว้อดีต ผกก.โจ้ และมีการพูดคุยทักทายอย่างเป็นกันเอง
และเมื่ออดีต ผกก.โจ้ ถูกคุมตัวไปถึง บก.ภ.จว.นครสวรรค์ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า อยากบอกอะไรถึงคนที่ปล่อยคลิปหรือไม่ อดีต ผกก.โจ้ ก็ตอบกลับมาทันทีว่า ไม่เป็นไร ผมอโหสิกรรมให้ครับ
โดยผู้ต้องหาในคดีนี้ทั้ง 7 คน ถูกควบคุมตัวได้แล้วทั้งหมด ประกอบด้วย
- พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์
- ร.ต.ท.ธรณินทร์ มาศวรรณา รอง สว.(ป.) สภ.เมืองนครสวรรค์
- ด.ต.วิสุทธิ์ บุญเขียว ผบ.หมู่ (ป.) สภ.เมืองนครสวรรค์
- พ.ต.ต.รวีโรจน์ ดิษทอง สว.สส.สภ.เมืองนครสวรรค์
- ร.ต.อ.ทรงยศ คล้ายนาค รอง สวป.สภ.เมืองนครสวรรค์
- ด.ต.ศุภากร นิ่มชื่น ผบ.หมู่ (ป.) สภ.เมืองนครสวรรค์
- ส.ต.ต.ปวีณ์กร คำมาเร็ว ผบ.หมู่ (ป.) สภ.ตาคลี
เบื้องต้นสั่งดำเนินคดีใน 3 ข้อหาหนัก คือ เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด, ร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยใช้กำลังประทุษร้าย และร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมาน หรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย ซึ่งข้อหาสุดท้ายนี้ โทษสูงสุด คือ ประหารชีวิต
ส่วนที่มีการกล่าวหาว่า มีการเรียกทรัพย์ผู้ต้องหาแลกกับการปล่อยตัว จเรตำรวจจะร่วมกับตำรวจสอบสวนโดยละเอียดอีกครั้ง. – สำนักข่าวไทย