กรุงเทพฯ 23 ส.ค.-บอร์ด ปตท.สผ.แต่งตั้ง “มนตรี ลาวัลย์ชัยกุล” เป็นซีอีโอคนใหม่ มีผล 1 ต.ค.นี้ จับตาแผนเข้าพื้นที่ “เอราวัณ” และปรับตัวเข้าสู่ยุค “Carbon Neutral”
บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯว่า คณะกรรมการ ปตท.สผ. ในการประชุมครั้งที่ 13/2564/503 วันที่ 20 สิงหาคม 2564 ได้มีมติแต่งตั้งนายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ผู้จัดการใหญ่ เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และเป็นกรรมการ ปตท.สผ. อีกตำแหน่งหนึ่ง แทนนายพงศธร ทวีสิน ที่จะพ้นจากตำแหน่งในวันที่ 30 กันยายน 2564 โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป
สำหรับตำแหน่งกรรมการ ปตท.สผ. จะมีผลเมื่อคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ให้ความเห็นชอบ
วิสัยทัศน์ของนายมนตรี ในการบริหารกิจการของ ปตท.สผ.ได้แก่ สร้างความเข้มแข็งธุรกิจส ารวจและผลิตปิโตรเลียม เพื่อความยั่งยืนด้านพลังงาน ก้าวข้ามความท้าทายในยุคดิจิทัลและการเปลี่ยนแปลงรูปแบบพลังงาน โดยคำนึงถึง สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG), เติบโตเป็นผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ ร่วมทุนในภูมิภาคตะวันออกกลาง ให้ได้ผลตามเป้าหมาย, ผลักดันโครงการ Carbon Capture Utilization and Storage เพื่อวางรากฐานกำหนดเป้าหมาย Net Zero Carbon Emission,วางบทบาทเป็น Cautious Diversified Player (ทำธุรกิจหลากหลาย) ดำเนินโครงการ Gas to Power สร้างธุรกิจพลังงานหมุนเวียน และพลังงานรูปแบบใหม่ เป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม รวมทั้งพัฒนาให้มีขีดความสามารถให้พร้อมบริการเชิงพาณิชย์ ใช้ Digital Transformation ขับเคลื่อนด้วยการตัดสินใจบนฐานข้อมูล ลดต้นทุน สร้างวัฒนธรรมที่พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า งานท้าท้ายของนายมนตรีคือจะทำอย่างไรให้เข้าผลิตในแหล่งเอราวัณให้รวดเร็วที่สุดหลังการเจรจากับเจ้าของสัมปทานเดิมเพื่อเข้าพื้นที่เตรียมพร้อมผลิตในปี 2565 มีความล่าช้า และในขณะที่โลกมุ่งสู่การลดโลกร้อนวางแผนลดใช้ฟอสซิลก็กระทบต่อธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม
สำหรับผลประกอบการปตท.สผ.ในไตรมาส 2 ปี2564 มีกำไรสุทธิ 7,139 ล้านบาท หรือ 222 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 65.17 % จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากปริมาณการขายและราคาขายที่ปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับต้นทุนต่อหน่วยที่ลดลงจาก 27.96 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ มาอยู่ที่ 27.24 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล. – สำนักข่าวไทย