กรุงเทพฯ 25 ก.พ.-นายชัยยุทธ์ คำคุณ รองอธิบดีกรมศุลกากร ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า กรณีกระแสข่าว บริษัท ซุปเปอร์ ซาร่า จำกัด ผู้นำเข้ารถเมล์ NGV โจทย์ฟ้องกรมศุลกากร ศาลจังหวัดพัทยาไต่สวนฉุกเฉินและมีคำสั่งให้ปล่อยรถเมล์ NGV นั้น กรมศุลกากรขอรอดูหนังสือคำสั่งศาลอย่างเป็นทางการสั่งมายังกรมศุลกากร เพื่อปฏิบัติตามคำสั่งศาล เนื่องจากการกักรถเมล์ NGV 99 คันเอาไว้ เนื่องจากมีเอกสารหลักฐานชัดเจน ตรวจสอบพบว่าผลิตรถเมล์ในประเทศจีน แต่ได้นำมาพักไว้ที่ประเทศมาเลเซียชั่วคราว จึงไม่เข้าข่ายได้รับการยกเว้นภาษีจากกลุ่มอาเซียน เพราะมีถิ่นกำเนิดไม่ถูกต้อง แต่หากผู้นำเข้าต้องการนำรถออกไปใช้ประโยชน์ สามารถวางหลักประกันทางคดีและเสียภาษีนำเข้าร้อยละ 40 ได้เหมือนกับการประกันทางคดีทั่วไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากศาลจังหวัดพัทยาไต่สวนฉุกเฉินและมีคำสั่งว่าคำฟ้องโจทก์มีเหตุผลเพียงพอและพฤติการณ์ที่กรมศุลกากร ยึดหน่วงรถโดยสารไว้ ทั้งที่ยังไม่มีหลักฐานอย่างเพียงพอว่าหนังสือรับรองถิ่นกำเนิด (Form D) เป็นเท็จหรือไม่ หรือมีเหตุอื่นหรือไม่และให้โจทก์วางค่าปรับนอกเหนือจากเงินประกันค่าภาษีอัตราร้อยละ 40 โดยไม่เป็นไปตามประมวลระเบียบปฏิบัติของกรมศุลกากร พ.ศ. 2556 เรื่องการยกเว้นอากรและลดอัตราอากรศุลกากรสำหรับของมีถิ่นกำเนิดจากอาเซียนทำให้โจทย์เสียหาย
จึงมีเหตุคุ้มครองประโยชน์ของโจทก์ไว้ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา จึงมีคำสั่งให้กรมศุลกากรปล่อยรถยนต์โดยสาร ตามหนังสือรับรองถิ่นกำเนิด และต้องวางเงินประกันภาษีนำเข้าอัตราร้อยละ 40 ของมูลค่ารถยนต์แต่ละคัน และไม่ต้องชำระค่าปรับตามประมวลระเบียบปฏิบัติของกรมศุลกากร พ.ศ.2556 และให้จำเลยออกหนังสือรับรองการจดทะเบียนรถยนต์แต่ละคันด้วย.-สำนักข่าวไทย